บทเรียน
นักเขียนรับเชิญคนพิเศษ – คุณ สรินยา วิทยาอารีย์กุล (ครูยา)
เรียนภาษาอิตาลี วันที่ 77
สวัสดีค่ะ ในวิดีโอที่ 52 นี้ ครูเวโรนิค่าจะสอนเรื่อง การใช้คำสรรพนามแบบ combinati ค่ะ
กดที่ลิ้งค์นี้ แล้วก็ดูวิดีโอก่อนเลยค่ะ ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ค่อยกลับมาดูคำแปลทีหลังค่ะ
Lezione 52
– Ciao a tutti!
สวัสดีค่ะทุกๆ คน!
– Come state?
พวกเธอเป็นอย่างไรกันบ้างคะ
– Eh io non tanto bene, anzi male.
อืม ฉันไม่ค่อยสบายค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันมีอาการแย่เลยค่ะ
– Eh sì, sto bevendo una bevanda calda per il raffreddore.
ค่ะ ฉันกำลังดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ เพื่อบรรเทาอาการหวัดอยู่ค่ะ
– Ho raffreddore, tosse, mal di gola, brividi di freddo e un po’ di febbre.
ฉันเป็นหวัด ไอ เจ็บคอ หนาวสั่น และมีไข้นิดหน่อยค่ะ
– E quindi così.
ก็เลยเป็นแบบนี้อ่ะค่ะ
– Questa è la lezione 52 del livello B1.
นี่คือบทเรียนที่ 52 ในระดับ B1 ค่ะ
– Ed eccomi qua di nuovo con il mio pigiama, versione invernale, e molto raffreddata.
และนี่คือสภาพของฉัน กับชุดนอนของฉันอีกแล้วค่ะ เป็นชุดนอนสำหรับหน้าหนาว และฉันก็เป็นหวัดมากด้วยค่ะ
– Eh va bene, è così.
ค่ะ ก็ในสภาพนี้ค่ะ
– E quindi ragazzi, va bene, sopraviverò.
และดังนั้น เพื่อนๆ คะ โอเคค่ะ ฉันจะมีชีวิตรอดแน่นอนค่ะ
– Ieri non potevo neanche parlare dal mal di gola, oggi sto così così, ma il medico mi dice sempre che devo stare a riposo.
เมื่อวาน ฉันไม่สามารถแม้แต่จะพูดได้ เพราะว่าฉันเจ็บคอค่ะ วันนี้ฉันก็รู้สึกงั้นๆ ค่ะ แต่คุณหมอบอกกับฉันตลอดว่า ฉันจะต้องพักผ่อนค่ะ
– E me l’ha detto, ma l’ha detto anche oggi.
และ กับฉัน เขาก็ได้บอกเกี่ยวกับมันแล้ว เขาก็บอกมันกับฉันวันนี้ด้วยค่ะ
– Quindi domani, ragazzi, non potrò lavorare.
ดังนั้น วันพรุ่งนี้ เพื่อนๆ คะ ฉันคงจะไม่สามารถทำงานได้แน่ๆ ค่ะ
– È così, non potrò lavorare, e quindi vi devo chiedere un favore.
มันก็เป็นแบบนี้ค่ะ ฉันคงจะไม่สามารถทำงานได้ และดังนั้น ฉันจึงต้องขอความช่วยเหลือกับพวกเธอค่ะ
– Sì, avete già capito.
ใช่ค่ะ พวกเธอเข้าใจกันแล้ว
– Benissimo.
ดีมากค่ะ
– Devo telefonare alla mia collega Roberta, la quale domani mi sostituirà, prenderà il mio posto e devo spiegarle, spiegarle diverse cose.
ฉันต้องโทรศัพท์หาโรแบรตะ เพื่อนร่วมงานสาวของฉันค่ะ ซึ่งวันพรุ่งนี้หล่อนจะต้องมาทำงานแทนฉัน และฉันก็ต้องอธิบายให้หล่อนฟังค่ะ อธิบายหลายๆ อย่างให้หล่อนฟังค่ะ
– Le devo spiegare cosa deve fare con i miei studenti, quale livello hanno, ecc.
ฉันต้องอธิบายให้หล่อนฟังว่า หล่อนต้องสอนอะไรกับพวกนักเรียนของฉัน พวกเขาเรียนอยู่ที่ระดับไหนกัน และอื่นๆ อีกค่ะ
– Grazie, grazie!
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ!
– Sapevo che avreste capito.
ตอนนั้นฉันก็คิดว่า พวกเธอน่าจะเข้าใจฉันค่ะ
– Glielo dirò velocemente, gliene parlerò fretta e poi continueremo la nostra lezione.
ฉันจะพูดกับเขาอย่างรวดเร็วค่ะ ฉันจะพูดคุยเกี่ยวกับมัน ให้เขาฟังอย่างรวดเร็ว แล้วพวกเราก็ค่อยมาต่อกับบทเรียนของพวกเราค่ะ
– Grazie, grazie.
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ
– Quindi adesso la chiamo, grazie.
ดังนั้น ตอนนี้ฉันโทรหาหล่อนก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ
– Pronto, ciao Roby, come stai?
ฮัลโหล สวัสดีโรบี้ เธอสบายดีไหมจ๊ะ
– Eh… io così così.
อืม… ฉันก็งั้นๆ อ่ะ
– Eh va bè.
ไม่เป็นไร
– Lo sai che… ieri stavo malissimo.
เธอรู้ใช่ไหมว่า… เมื่อวานฉันมีอาการแย่มากๆ เลย
– Oggi così, ho ancora mal di gola.
วันนี้ก็งั้นๆ ฉันยังเจ็บคออยู่เลย
– Domani, domani non potrò lavorare, te l’ho detto.
พรุ่งนี้ ฉันคงจะไม่สามารถทำงานได้ ฉันได้บอกมันกับเธอไปแล้ว
– Me l’ha detto il medico.
กับฉัน หมอได้บอกมันไว้แล้ว
– Sì, sì, me lo dice sempre di stare a riposo.
ใช่ ใช่ เขาได้บอกมันกับฉันตลอดว่าให้พักผ่อน
– È così, e va bene.
มันก็เป็นแบบนี้อ่ะ
– Quindi come stai?
เอาหล่ะ เธอเป็นไงบ้าง
– Sei pronta?
เธอพร้อมไหม
– Ma sì, andrà tutto bene.
เอาหน่ะ มันจะผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอนจ้า
– Te lo dico io.
ฉันบอกมันกับเธอเอง
– Benissimo.
ดีมากที่สุดเลยค่ะ
– Allora, ti parlo dei miei studenti, degli studenti che avrei avuto domani, ma lo sai mi devi sostituire.
เอาหล่ะค่ะ ฉันจะพูดถึงพวกนักเรียนของฉันให้เธอฟังนะ พวกนักเรียนที่ฉันน่าจะเจอพรุ่งนี้ แต่เธอก็รู้ว่า เธอต้องไปสอนแทนฉัน
– Allora, domani avrò un corso con gli studenti australiani, dalle 9 alle 12:40.
เอาหล่ะค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะมีสอนกับพวกนักเรียนชาวออสเตรเลีย ตั้งแต่เวลา 9 โมงจนถึงตอน 12:40 ค่ะ
– Te li ricordi?
เธอจำพวกเขาได้ไหม
– Sì, sì, proprio loro.
ใช่ ใช่ พวกเขานั้นแหละ
– Hanno seguito il corso la settimana scorsa e continueranno domani.
พวกเขาเริ่มเรียนเมื่อสัปดาห์ก่อน และก็จะมาต่อกันพรุ่งนี้จ้า
– Benissimo.
ดีมากที่สุดเลยจ้า
– Eh niente, quindi allora, adesso ti parlo un po’ di loro.
ก็ไม่มีอะไร เอาหล่ะ ตอนนี้ฉันจะพูดให้เธอฟังเกี่ยวกับพวกเขานะ
– Em… loro non amano tanto la grammatica, sì, lo sai, loro sono anglosassoni, non amano troppe regole troppe complicate.
อืม… พวกเขาไม่ชอบเรียนหลักการใช้ภาษาสักเท่าไหร่ ใช่ เธอก็รู้นิ พวกเขาเป็นคนที่มาจากทางเหนือของอังกฤษ พวกเขาไม่ชอบกฎเกณฑ์ที่เยอะเกินไป ไม่ชอบความซับซ้อนต่างๆ อ่ะจ้า
– Sì, lo so, l’italiano è così, loro amano tanto la conversazione.
ใช่ ฉันรู้ ภาษาอิตาลีมันก็เป็นแบบนี้แหละ พวกเขาชอบมากเรื่องการสนทนาจ้า
– Eh… e quindi, dovrai iniziare con molta conversazione.
อืม… และดังนั้น เธอควรเริ่มด้วยการสนทนาให้เยอะหน่อยจ้า
– Sì, ovviamente la grammatica, la grammatica gliela dovrai spiegare comunque.
ใช่ แน่นอนว่าเรื่องไวยากรณ์ อย่างไรเธอก็ต้องอธิบายมันให้กับพวกเขาฟังด้วยอ่ะ
– Magari, gliene spiegherai un po’ alla volta, gliela spiegherai un po’ alla volta.
บางที เธอก็อธิบายมันให้พวกเขาฟังครั้งละนิด เธอก็อธิบายมันให้พวกเขาฟังทีละนิดจ้า
– Gliene spiegherai un pochino, perché comunque gli serve per costruire le frasi.
เธอก็อธิบายส่วนนึงให้พวกเขาฟังสักหน่อย เพราะว่าพวกเขาต้องใช้มันสำหรับการสร้างประโยคอ่ะจ้า
– Ovviamente, certo.
แน่นอนจ้า
– Però, diciamo, loro vogliono fare più che altro conversazione.
แต่ว่า ก็พูดได้ว่า พวกเขาอยากพูดสนทนามากว่าอย่างอื่นจ้า
– Em… poca grammatica, è così.
อืม… ไวยากรณ์นิดหน่อยพอ ก็แนวนี้จ้า
– Poi va bè, la pausa gliela, gliela proporrai alle 11, dalle 11 alle 11:20.
แล้วช่วงพัก เธอก็บอกไปว่าตอน 11 โมง จาก 11 โมง ถึง 11:20 ก็ได้
– Quindi il corso prevede 20 minuti di pausa.
ดังนั้น หลักสูตรนี้ มีช่วงพักให้ 20 นาทีด้วยจ้า
– Va benissimo, quindi con loro farai così.
เยี่ยมมากค่ะ ดังนั้นกับพวกเขาเธอก็ทำแบบนี้นะ
– Em… farai, diciamo, poca grammatica di tanto in tanto, insieme a tanta conversazione.
อืม… เธอก็สอน ไวยากรณ์นิดหน่อย เป็นครั้งคราว ร่วมกับการสนทนาที่เยอะๆ หน่อยนะ
– Quindi, dopo tanta conversazione, introdurrai qualche piccola regola grammaticale.
ดังนั้น หลังจากเน้นที่การสนทนาแล้ว เธอก็ค่อยสอดแทรกกฎการใช้ภาษาเข้าไปบ้างนิดๆ หน่อยๆ นะ
– Sì, va bene.
ใช่ โอเคจ้า
– Le regole ovviamente gliele devi spiegare però pieno pieno e poco alla volta.
แน่นอนว่า พวกกฎต่างๆ เนี่ย เธอก็ต้องอธิบายให้พวกเขาฟังด้วย แต่ว่า แบบค่อยเป็นค่อยไป และก็ทีละนิดพอจ้า
– Va bene, dopodiché avrai una pausa pranzo, e dalle 14 fino alle 16 avrai un corso semi-individuale.
โอเค แล้วหลังจากนั้น เธอก็จะได้พักกลางวัน ตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง จนถึงช่วงบ่ายสี่โมงค่ะ แล้วเธอก็จะมีการสอนแบบกึ่งตัวต่อตัว
– Sai benissimo, per due persone, bene.
เธอรู้ดีว่ามันเป็นอย่างไร สำหรับสองคนนะ ดีจ้า
– Em… si tratta di una, di una coppia di francesi.
อืม… ก็สอนสามีภรรยาชาวฝรั่งเศษคู่นึงอ่ะ
– Allora, con loro in realtà l’esatto contrario.
เอาหล่ะ กับพวกเขามันตรงกันข้ามเลย
– Perché loro amano la grammatica.
เพราะว่าพวกเขาชอบไวยากรณ์มาก
– Loro diciamo vengono a scuola proprio per imparare la grammatica.
สำหรับพวกเขา ก็พูดได้ว่า พวกเขามาโรงเรียนเพื่อเรียนเรื่องไวยากรณ์โดยเฉพาะเลยจ้า
– Proprio perché hanno già una vita sociale a Cagliari,
เพราะว่าพวกเขามีสังคมสังสรรค์กับเพื่อนที่เมืองคาลยิอาริแล้ว
conoscono tanta gente, quindi parlano già bene l’italiano,
พวกเขารู้จักผู้คนมากมาย ดังนั้นพวกเขาก็พูดภาษาอิตาลีได้ดีแล้ว
hanno buon livello, hanno già un livello B2 e vogliono fare un corso di perfezionamento.
พวกเขาเรียนสูงแล้ว พวกเขาอยู่ในระดับ B2 แล้ว และพวกเขาต้องการเรียนหลักสูตรแบบเป๊ะเว่อร์จ้า
– Quindi gliela spiegherai bene, quindi la grammatica, sì, sì, la grammatica è molto importante.
ดังนั้น เธอก็อธิบายหลักการใช้แบบละเอียดยิบให้พวกเขาเลยจ้า ใช่ ใช่ ไวยากรณ์มันสำคัญมากๆ จ้า
– Gliela spiegherai bene e in modo molto molto chiaro.
เธอจะต้องอธิบายให้พวกเขาฟังทุกรายละเอียด และในรูปแบบที่ชัดเจนมากๆ ด้วยจ้า
– Perfetto.
เยี่ยมมากจ้า
– Sì, sì, gliene spiegherai tanta, perché per loro è importantissimo.
ใช่ๆ เธอจะต้องอธิบายให้พวกเขาฟังเยอะๆ เลย เพราะว่าสำหรับพวกเขา มันสำคัญมากที่สุดจ้า
– È importantissima.
มันสำคัญมากที่สุดเลยจ้า
– Allora sì, allora, i libri di didattica, sì, per quanto riguarda la grammatica, ce la consigliano alla fine.
เอาหล่ะ ใช่ พวกหนังสือเกี่ยวกับการสอน ใช่ ส่วนไวยากรณ์ ก็ค่อยสอนตอนท้ายค่ะ
– Quindi ci consigliano inizialmente un argomento di conversazione, e poi alla fine diciamo che cosa abbiamo imparato e insegniamo la grammatica.
ดังนั้น ถ้าเริ่มสอนหัวข้อการสนทนาแบบนึงก่อน แล้วตอนท้ายก็พูดว่า พวกเราได้เรียนอะไรไปแล้วบ้างคะ และก็สอนเรื่องไวยากรณ์
– Con loro no, questo non funziona.
กับพวกเขาไม่ได้จ้า มันไม่ได้ผลอ่ะ
– Loro vogliono prima iniziare con regole grammaticali, e poi con loro, guarda la grammatica, io te la consiglio alla fine, quando sono un po’ stanchi, allora introduci un argomento di conversazione.
พวกเขาอยากเริ่มด้วยกฎไวยากรณ์ต่างๆ ก่อน พอพวกเขาเริ่มเหนื่อยเธอก็ค่อยสอนเรื่องการสนทนานะ
– Esatto, esatto.
ถูกต้องจ้า
– Sì, te la consiglio proprio alla fine.
ใช่ ฉันแนะนำให้เธอสอนมันตอนท้ายจ้า
– Bene, eh sì, introduci un argomento di conversazione e vedi un po’, em… vedi un po’.
จ้า ใช่จ้า เธอก็สอดแทรกหัวข้อการสนทนาเข้าไป แล้วก็ค่อยดูว่า อืม… เธอก็ค่อยดูจ้า
– Per esempio, sempre attinente alle regole grammaticali che hai spiegato.
ตัวอย่างเช่น ก็ให้เกี่ยวข้องกับกฎไวยากรณ์ที่เธอได้อธิบายไปแล้วเสมอจ้า
– Ok, allora, per quanto riguarda i libri.
โอเค เอาหล่ะ สำหรับพวกหนังสือนั่น
– I libri glieli ha già dati la scuola.
ส่วนเรื่องหนังสือต่างๆ ทางโรงเรียนได้ให้กับพวกเขาไปเรียบร้อยแล้วจ้า
– Esatto, glieli ha dati la scuola quindi non ti devi preoccupare.
ถูกต้องจ้า ทางโรงเรียนได้ให้มันกับพวกเขาไปแล้ว ดังนั้นเธอก็ไม่ต้องห่วงจ้า
– Invece le fotocopie, allora, io gliene ho date tante, quindi non c’è bisogno che tu gliene dia altre.
ส่วนพวกกระดาษที่จะปริ้นออกมา เอาหล่ะ ฉันได้ให้มันกับพวกเขาไปเยอะมากแล้ว ดังนั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เพิ่มแล้วจ้า
– Guarda gliele ho date quasi tutte all’inizio del corso.
ดูนะ ฉันได้ให้มันกับพวกเขาไปเกือบหมดแล้ว ตอนที่เพิ่งเริ่มเรียนอ่ะจ้า
– Poi se gliene vuoi aggiungere delle altre fai pure, vedi un po’ tu.
แต่ถ้าเธออยากจะให้เพิ่มก็ได้ ก็แล้วแต่เธอจ้า
– Ovviamente io ti do delle linee guida, ma vedi tu.
แน่นอนว่า ฉันก็ให้แค่แนวทางกับเธอ แต่เธอก็ค่อยดูเอาอีกทีจ้า
– Va bene Roberta?
ประมาณนี้นะ โรแบรตะ
– Ok, perfetto.
โอเค เยี่ยมมากจ้า
– Poi se hai delle altre domande, sto pensando a cosa, sì, ti ho già detto tutto.
แล้วถ้าเธอมีคำถามอื่นๆ อีก ฉันกำลังคิดถึงอะไรบางอย่างอยู่ ใช่ ฉันได้บอกกับเธอไปหมดแล้วจ้า
– Se hai delle altre domande, chiamami quando vuoi o mandami un messaggio.
ถ้าเธอมีคำถามอื่นๆ อีก ก็โทรมาหาฉันได้ หรือจะส่งข้อความมาหาฉันก็ได้จ้า
– Em… ci sentiamo, va bene?
อืม… แล้วค่อยคุยกันต่อนะ ตามนี้เนอะ
– Sì, sì, sì, te l’ho già detto, te l’ho già detto, andrà tutto benissimo.
ใช่ๆ ฉันได้บอกมันกับเธอไปแล้ว ฉันได้บอกมันกับเธอไปแล้วว่า มันจะผ่านไปได้ด้วยดีแน่ๆ จ้า
– Va bene Roby, ok, ti ringrazio.
ตามนี้โรบี้ โอเค ฉันขอขอบคุณเธอมากๆ เลยนะ
– Perché adesso devo continuare la mia lezione.
เพราะว่าตอนนี้ ฉันจะต้องสอนต่อแล้วจ้า
– Ti ringrazio e ci sentiamo presto.
ขอขอบคุณเธอนะ และพวกเราค่อยมาคุยกันจ้า
– Grazie mille e a presto Roby, ciao, ciao.
ขอบคุณมาก แล้วเจอกันเร็วๆ นี้นะโรบี้ บ๊ายบาย
– Ok, grazie ragazzi, ve l’ho detto che era molto importante questa telefonata.
โอเค ขอบคุณค่ะ เพื่อนๆ ฉันได้บอกกับพวกเธอไปแล้วว่า มันสำคัญมากๆ สำหรับการคุยโทรศัพท์ในครั้งนี้
– Eh… abbiamo imparato anche tante cose.
ค่ะ… พวกเราได้เรียนหลายสิ่งหลายอย่างด้วยค่ะ
– Per esempio, I PRONOMI COMBINATI.
ตัวอย่างเช่น พวกคำสรรพนามแบบผสม
– Oh no Veronica, ancora pronomi?
โอ้ว ไม่นะ เวโรนิค่า เรียนคำสรรพนามอีกแล้วหรือคะ
– Ragazzi, questo è il livello B1 e dobbiamo andare avanti con la grammatica.
เพื่อนๆ คะ นี่คือระดับ B1 นะคะ และพวกเราก็ต้องเดินหน้ากันต่อกับหลักต่างๆ ในการใช้ภาษาค่ะ
– E imparare delle cose utili, specialmente nella comunicazione.
และก็เรียนเกี่ยวกับเรื่องที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการสื่อสารค่ะ
– Allora, vi ricordo ragazzi che questo è il livello B1,
เอาหล่ะค่ะ ฉันขอย้ำให้พวกเธอจำได้นะคะ เพื่อนๆ ว่าเราอยู่ในระดับ B1 แล้ว
quindi non scrivete commenti come,
ดังนั้น พวกเธอห้ามเขียนคอมเม้นต์ ประมาณว่า
“non capisco quello che dici”,
“ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดเลย”
perché per poter seguire questo livello intermedio, dovete riuscire a capire quello che dico.
เพราะว่า คนที่จะเรียนในระดับนี้ได้จะต้องเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดแล้วนะคะ
– Se non capite niente, allora, guardate le lezioni precedenti, ok?
ถ้าพวกเธอไม่เข้าใจอะไรเลย งั้น พวกเธอก็กลับไปดูบทเรียนก่อนหน้านี้กันก่อน โอเคนะคะ
– Quindi prima di tutto per capire questa lezione dovete avere il livello sufficiente.
ดังนั้น อย่างแรกเลย การที่จะเข้าใจบทเรียนนี้ได้ พวกเธอต้องเก่งพอสมควรแล้วนะคะ
– Seconda cosa, dovete rivedere un po’ di lezioni passate.
อย่างที่สอง พวกเธอต้องกลับไปดูพวกบทเรียนก่อนหน้านี้ซ้ำกันอีกนะคะ
– La 26, in cui spiego i pronomi diretti.
บทเรียนที่ 26 ที่ฉันอธิบายเรื่องคำสรรพนามแบบตรง
– La lezione 27, i pronomi diretti nei tempi composti.
บทเรียนที่ 27 เรื่องคำสรรพนามแบบตรง ในช่วงเวลาอดีตที่มีคำกริยาสองตัว
– E la lezione 28.
และบทเรียนที่ 28
– Nella lezione 28 spiego i pronomi indiretti.
ในบทเรียนที่ 28 ฉันอธิบายเรื่องคำสรรพนามแบบไม่ตรงไว้
– Poi la lezione 30, lì spiego il pronome ne.
แล้วก็บทเรียนที่ 30 ตอนนั้นฉันอธิบายเรื่องคำสรรพนาม ne ค่ะ
– E la lezione 44, dove spiego il pronome diretto lo, però quando mi riferisco ad un fatto.
และบทเรียนที่ 44 ที่ฉันอธิบายเรื่องคำสรรพนามแบบตรง lo ที่อ้างถึงการกระทำค่ะ
– Per esempio, lo so/non lo so, lo sapevo/non lo sapevo.
ตัวอย่างเช่น ฉันรู้เกี่ยวกับมัน/ฉันไม่รู้เกี่ยวกับมัน, ตอนนั้นฉันรู้เกี่ยวกับมัน/ตอนนั้นฉันไม่รู้เกี่ยวกับมันค่ะ
– Che cosa?
อะไรคะ
– Questo fatto.
ที่ว่า การกระทำ อ่ะค่ะ
– Benissimo, il fatto di cui stiamo parlando.
ดีมากๆ ค่ะ มันก็คือ การกระทำหรือสิ่งที่พวกเรากำลังพูดถึงอยู่ค่ะ
– Bene, quindi rivedete tutte queste lezioni.
ดีค่ะ ดังนั้น พวกเธอก็กลับไปดูบทเรียนทั้งหมดนี้ซ้ำกันนะคะ
– Ovviamente se ve le ricordate continuate a seguire questo, altrimenti rivedete un po’ tutto.
แน่นอนค่ะว่า ถ้าพวกเธอจำมันได้ พวกเธอก็เรียนต่อได้ค่ะ ถ้าไม่เช่นนั้น พวกเธอก็กลับไปดูซ้ำอีกนิดนึงค่ะ
– E va bene, vi faccio degli esempi nel mio dialogo, dove vediamo dei pronomi combinati.
โอเคค่ะ ฉันได้ทำตัวอย่างไว้ในบทสนทนาของฉันด้วย ก็จะได้เห็นเรื่องคำสรรพนามแบบ combinati ค่ะ
– E non spaventatevi per il nome.
พวกเธอก็อย่าตกใจไปกับชื่อของมันนะคะ
– Perché tutti questi nomi fanno un po’ paura, ma sono cose molto utili, che servono nella comunicazione.
เพราะว่าชื่อเรียกต่างๆ พวกนี้ มันฟังดูน่ากลัวหน่อยค่ะ แต่มันเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากๆ เลยนะคะ ที่มันจำเป็นต้องใช้เวลาเราคุยกันค่ะ
– Vi immaginate?
พวกเธอนึกภาพออกไหมคะ
– Perché senza i pronomi, la nostra comunicazione sarebbe immensa.
เพราะว่า ถ้าไม่มีคำสรรพนามพวกนี้ การสื่อสารของพวกเรามันก็จะยืดยาวมากๆ ค่ะ
– Vi immaginate?
พวกเธอนึกภาพออกไหมคะ
– Invece i pronomi aiutano, perché sostituendo il nome,
ซึ่งคำสรรพนามพวกนี้มันช่วยให้กระชับลง เพราะว่าจะใช้แทนคำนามค่ะ
rendono le frasi più brevi e ci aiutano ad interagire più velocemente.
มันจะทำให้ประโยคต่างๆ สั้นลง และช่วยให้พวกเราคุยกันได้ไว้ขึ้นค่ะ
– Quindi è qualcosa di positivo.
ดังนั้น มันคือเรื่องดีค่ะ
– Allora, il medico me lo dice sempre, che cosa?
เอาหล่ะ หมอบอกมันกับฉันตลอดเลย บอกอะไรคะ
– Mi dice sempre di rilassarmi e di riposarmi ogni tanto.
เขาบอกฉันตลอดว่า ให้ฉันทำตัวเองให้ผ่อนคลาย และให้ฉันพักผ่อนเป็นระยะๆ ค่ะ
– Va bene?
เข้าใจไหมคะ
– Quindi io posso dire il medico mi dice sempre che dovrei riposarmi. Ok?
ดังนั้น ฉันจะพูดว่า หมอบอกกับฉันตลอดว่า ฉันควรจะให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้าง เข้าใจไหมคะ
– Però se io metto, vi ricordate l’ho detto tante volte,
แต่ว่าถ้าฉันวาง พวกเธอจำได้ไหมคะ ฉันเคยพูดถึงมันไปแล้วหลายรอบว่า
se io metto due pronomi vicini, il primo pronome, che ha una i finale, prende la e,
ถ้าฉันวางคำสรรพนามสองคำใกล้กัน คำสรรพนามคำแรก ที่มีตัว i อยู่ตอนท้าย มันจะเปลี่ยนเป็นตัว e ค่ะ
come vi ricordate il pronome ci. Ok?
ก็อย่างเช่น พวกเธอจำคำสรรพนาม ci กันได้ไหมคะ โอเคนะคะ
– Per esempio, ce l’ho, non dico ci lo ma ce l’ho, perché ci è un altro pronome.
ตัวอย่างเช่น ce l’ho, ฉันจะไม่พูดว่า ci lo แต่จะพูดว่า ce l’ho เพราะว่าคำว่า ci มันคือคำสรรพนามอีกคำนึงค่ะ
– Qui abbiamo la stessa regola.
ตรงนี้พวกเราก็ใช้กฎแบบเดียวกันค่ะ
– Quindi questo me significa a me, pronome indiretto, lezione 28.
ดังนั้นคำว่า me มันมีหมายความว่า a me (ที่ฉัน) คำสรรพนามแบบไม่ตรง ในบทเรียนที่ 28 ค่ะ
– Invece questo lo è un pronome diretto, lezione 26 e lezione 44,
ส่วนคำว่า lo นี้ มันคือคำสรรพนามโดยตรงค่ะ อยู่ในบทเรียนที่ 26 และบทเรียนที่ 44 ค่ะ
perché nella lezione 44 io spiego il pronome diretto lo che si riferisce ad un fatto in questione.
เพราะว่าในบทเรียนที่ 44 ฉันอธิบายเรื่องคำสรรพนามโดยตรง lo ที่มันอ้างถึงการกระทำในเรื่องนั้นๆ ค่ะ
– Quindi se io metto insieme questi due pronomi, che si riferiscono me a me,
ดังนั้น เมื่อฉันวางคำสรรพนามสองคำนี้ไว้ด้วยกัน ที่พวกมันอ้างถึงฉัน มาที่ฉัน
invece lo a questo fatto, risulta così e abbrevio la comunicazione.
ส่วน lo ไปที่การกระทำนี้ แสดงผลแบบนี้ และย่อการสื่อสารให้สั้นลงด้วยค่ะ
– Quindi il medico me lo dice sempre.
ดังนั้น หมอเขาก็บอกมันกับฉันตลอดเลยค่ะ
– Dice a me questo fatto.
เขาบอกกับฉัน ในเรื่องนี้ค่ะ
– Bene, vediamo un altro esempio.
ดีค่ะ พวกเรามาดูอีกตัวอย่างนึงกันต่อค่ะ
– Andrà bene!
มันจะผ่านไปได้ด้วยดีแน่ๆ ค่ะ!
– Quando ho rassicurato la mia collega.
ตอนนั้นที่ฉันทำให้เพื่อนร่วมงานของฉันรู้สึกมั่นใจมากขึ้นค่ะ
– Vedrai che andrà bene, te lo dico io.
แล้วเธอจะเห็นว่า มันจะผ่านไปได้ด้วยดีแน่ๆ ฉันนี่แหละที่เป็นคนบอกมันกับเธอเองค่ะ
– Io dico a te questo fatto, che andrà bene.
ฉันบอกกับเธอ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ว่ามันจะผ่านไปด้วยดีอ่ะค่ะ
– Quindi te lo.
ดังนั้น ก็ใช้ te lo ค่ะ
– Ovviamente ti dico che andrà bene, ma te lo dico.
แน่นอนค่ะว่า ฉันบอกกับเธอว่า มันจะผ่านไปด้วยดีแน่ๆ ใช้ ti ถ้ามีคำสรรพนามคำเดียว แต่ใช้ te ฉันบอกมันกับเธอ ถ้ามีคำสรรพนามสองคำใกล้ๆ กันค่ะ
– Quindi ricordate che il primo pronome cambia la vocale, non è più i ma una e.
ดังนั้น พวกเธอจำไว้นะคะว่า คำสรรพนามตัวแรก มันจะเปลี่ยนสระค่ะ จะไม่ใช้ตัว i แล้ว แต่เปลี่ยนเป็นตัว e ค่ะ
– Quindi mi diventa me, ti diventa te.
ดังนั้นคำว่า mi กลายเป็น me ค่ะ คำว่า ti กลายเป็น te ค่ะ
– Allora, qua invece siamo alla terza persona.
เอาหล่ะค่ะ ส่วนตรงนี้ เป็นบุคคลที่สาม
– Qui è più facile di quello che pensiate.
ตรงนี้มันจะง่ายกว่าที่พวกเธอคิดกันอีกค่ะ
– Glielo.
คำว่า glielo แปลว่า มันไปที่เขา ค่ะ
– Glielo vuol dire a Roberta, in questo caso perché parlavo con Roberta, ma anche a Mario, per esempio.
คำว่า glielo หมายถึง บอกมันให้โรแบรตะฟัง ในกรณีนี้ เพราะว่าตอนนั้นฉันพูดคุยอยู่กับโรแบรตะค่ะ แต่ก็ใช้กับมาริโอะได้ด้วยค่ะ ตัวอย่างค่ะ
– Quindi in questo glielo vuol dire a lui o a lei.
ดังนั้นคำว่า glielo นี้ มันหมายถึง ไปที่เขาผู้ชาย หรือไปที่เขาผู้หญิงก็ได้ค่ะ
– Va bene?
เข้าใจไหมคะ
– Quindi glielo dico, io dico a Roberta o a Mario questo fatto.
ดังนั้น ฉันบอกมันกับเขา ฉันบอกให้โรแบรตะ หรือบอกให้มาริโอะฟัง ถึงการกระทำนี้ค่ะ
– Quindi se fosse Roberta sarebbe, le dico che mi dovrà sostituire,
ดังนั้น ถ้าเป็นโรแบรตะ มันก็น่าจะเป็น (le dico) ฉันบอกกับหล่อนว่า เธอต้องมาทำงานแทนฉัน
però, se devo mettere queste due informazioni insieme, non è più le ma glie, glielo che in questo caso va tutto attaccato.
แต่ถ้าฉันต้องวางข้อมูลสองตัวนี้ใกล้กัน จะไม่ใช้ le อีกต่อไปค่ะ แต่จะใช้ glie ค่ะ glielo ซึ่งในกรณีนี้จะต้องเขียนติดกันค่ะ
– Invece se fosse Marco o Mario o chicchessia, gli dico che mi dovrà sostituire.
ถ้าตอนนั้นฉันขอให้มารโคะ หรือว่ามาริโอะ หรือจะเป็นใครก็ได้ ฉันก็จะบอกเขาให้มาทำงานแทนฉันค่ะ
– Però quando è un pronome combinato non cambia alla terza persona.
แต่ว่า ถ้ามันเป็นคำสรรพนามแบบ combinato มันจะไม่เปลี่ยนในรูปบุคคลที่สามค่ะ
– Quindi glie si riferisce sia ad un uomo sia ad una donna.
ดังนั้นคำว่า glie มันใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงค่ะ
– Andiamo avanti.
ต่อค่ะ
– Quindi prima persona plurale.
ดังนั้น บุคคลแรกพหูพจน์
– I libri, parlo della grammatica quando faccio l’esempio a Roberta.
พวกหนังสือทั้งหลาย ฉันพูดเกี่ยวกับเรื่องไวยากรณ์ ตอนที่ฉันยกตัวอย่างให้โรแบรตะดู
– I libri ce la consigliano alla fine. Ok?
พวกหนังสือต่างๆ พวกเขาแนะนำมันให้กับพวกเรากันตอนท้าย เข้าใจไหมคะ
– Normalmente i libri di didattica ce la consigliano alla fine.
โดยปกติแล้ว พวกหนังสือการสอนพวกเขาจะแนะนำมันให้กับพวกเราตอนท้ายค่ะ
– I libri di didattica ci consigliano la grammatica, ma io ho sempre la mia bacchetta magica e il ci diventa ce perché abbiamo un altro pronome.
พวกหนังสือประกอบการสอนต่างๆ พวกเขาจะแนะนำหลักการใช้ภาษาให้พวกเรา แต่ว่าฉันมีไม้กายสิทธิ์เช่นเคยค่ะ และคำว่า ci ก็กลายเป็นคำว่า ce ค่ะ เพราะว่าพวกเรามีคำสรรพนามอีกหนึ่งตัวอยู่ด้วยค่ะ
– Quindi ce, che sarebbe un ci ma è cambiato perché c’è un altro pronome,
ดังนั้นคำว่า ce ที่มันน่าจะเป็นคำว่า ci แต่ว่ามันได้เปลี่ยนรูปไปแล้ว เพราะว่ามีคำสรรพนามอีกคำนึงค่ะ
significa a noi, la significa la grammatica.
มันหมายถึง มาที่พวกเรา คำว่า la มันหมายถึง หลักไวยากรณ์ค่ะ
– Quindi ce la consigliano.
ดังนั้น ให้กับพวกเรา ที่พวกเขาแนะนำมัน
– E qua di nuovo stacchiamo i due pronomi.
และตรงนี้ก็อีกครั้งค่ะ พวกเราเว้นวรรคคำสรรพนามสองคำนี้ค่ะ
– Solo alla terza persona abbiamo i pronomi combinati che formano un unico pronome.
เฉพาะกับบุคคลที่สามเท่านั้น ที่พวกเราใช้พวกคำสรรพนามแบบ combinati คือรวมกันจนกลายเป็นคำสรรพนามคำเดียวค่ะ
– Bene, poi io dico ve lo dirò domani.
ค่ะ และฉันก็พูดว่า ฉันจะบอกมันกับพวกเธอพรุ่งนี้นะ
– Ah sì, qui ho dimenticato di dirlo a Roberta, perché io in realtà lo dico in diretta,
อ้า ใช่ค่ะ ตรงนี้ฉันลืมที่จะบอกมันให้กับโรแบรตะฟัง เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว ฉันได้พูดมันสดๆ เลย
dovevo dirle, poi magari la richiamo, domani chiamerò te e Valentina e vi dirò come sto.
ในตอนนั้นฉันต้องบอกกับหล่อน แล้วบางทีฉันค่อยโทรศัพท์ไปหาหล่อนอีกครั้ง พรุ่งนี้ฉันจะโทรศัพท์หาเธอและวาเลนติหน่ะ และฉันจะบอกให้พวกเธอฟังว่า ฉันเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
– Ve lo dirò domani. Ok?
ฉันจะบอกมันกับพวกเธอในวันพรุ่งนี้ โอเคนะคะ
– Quindi a voi, vi lo dirò.
ดังนั้น ไปที่พวกเธอ ฉันจะบอกมันให้กับพวกเธอฟัง
– Quindi vi dirò domani come starò se starò bene o male,
ดังนั้น ฉันจะบอกกับพวกเธอในวันพรุ่งนี้ ว่าฉันจะเป็นอย่างไร ถ้าฉันจะสบายดีหรือไม่ดี
ma, bacchetta magica, ve lo dirò, quindi a voi questo fatto.
แต่ว่า ไม้กายสิทธิ์ ฉันจะบอกมันกับพวกเธอ ดังนั้น บอกกับพวกเธอ เกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ
– Andiamo alla terza persona plurale.
พวกเรามาดูในรูปแบบบุคคลที่สามพหูพจน์กันค่ะ
– Anche qua.
ตรงนี้ก็ด้วยค่ะ
– Allora, la terza persona plurale, per quanto riguarda i pronomi combinati, è sempre glie più un altro pronome attaccato.
เอาหล่ะค่ะ บุคคลที่สามพหูพจน์ ถ้ามันเกี่ยวกับพวกคำสรรพนาม combinati มันก็คือ glie บวกกับคำสรรพนามอีกตัวนึง ที่อยู่ติดกันเสมอค่ะ
– Gliela devi spiegare, quindi a loro la grammatica.
เธอต้องอธิบายมันให้กับพวกเขาฟัง ดังนั้น ให้พวกเขาฟังเรื่องไวยากรณ์ค่ะ
– Va bene?
ตามนี้นะคะ
– Gli devi spiegare la grammatica, gliela devi spiegare.
เธอต้องอธิบายไวยากรณ์ให้พวกเขาฟัง เธอต้องอธิบายมันให้พวกเขาฟังค่ะ เพศหญิง เอกพจน์
– Se invece parlo delle regole, gliele devi spiegare.
แต่ถ้าฉันพูดเรื่องกฎต่างๆ เธอต้องอธิบายพวกมันให้พวกเขาฟังค่ะ เพศหญิง พหูพจน์
– Quindi gli devi spiegare le regole, a loro.
ดังนั้น เธอต้องอธิบายเรื่องกฎต่างๆ ให้พวกเขาฟัง ไปที่พวกเขาค่ะ
– Gliele devi spiegare. Bene.
เธอต้องอธิบายพวกมันให้พวกเขาฟัง ค่ะ
– Qua abbiamo il pronome ne che abbiamo imparato nella lezione 30.
ตรงนี้ พวกเรามีคำสรรพนาม ne ที่พวกเราได้เรียนกันไปแล้วในบทเรียนที่ 30 ค่ะ
– Gliene devi spiegare molta.
เธอต้องอธิบายมันให้พวกเขาฟังมากๆ เลยค่ะ
– Che differenza c’è tra qui e qui?
มันมีอะไรที่แตกต่างกันคะ ระหว่างตรงนี้และตรงนี้
– Che molta è una quantità, quindi a loro la grammatica.
คำว่า molta (มาก) บอกถึง ปริมาณค่ะ ดังนั้น ไปที่พวกเขา สอนเรื่องไวยากรณ์ค่ะ
– E non posso dire gliela devi spiegare molta.
และฉันไม่สามารถพูดได้ว่า เธอต้องอธิบายมันให้พวกเขาฟังในปริมาณมากๆ ค่ะ
– Gliela devi spiegare tutta, perché vi ricordate?
เธอต้องอธิบายมันให้พวกเขาฟังทั้งหมด ทำไมคะ พวกเธอจำกันได้ไหมคะ
– Tutto è un totale, invece molta è una quantità.
คำว่า tutto (ทั้งหมด) มันคือทั้งหมดค่ะ ส่วนคำว่า molta (มาก) มันคือปริมาณค่ะ
– Quindi ho bisogno del pronome ne, proprio perché ho un quantità.
ดังนั้น ฉันจึงต้องใช้คำสรรพนาม ne ก็เพราะว่าฉันพูดถึงเรื่อง ปริมาณนึง อยู่ค่ะ
– Qua ho messo un asterisco, perché questo glie più pronome attaccato vale per il maschile plurale e per il femminile plurale.
ตรงนี้ ฉันได้ใส่เครื่องหมายดอกจันเอาไว้ค่ะ เพราะคำว่า glie บวกกับคำสรรพนามติดกัน มันใช้ได้ทั้งกับเพศชายพหูพจน์และกับเพศหญิงพหูพจน์ค่ะ
– Quindi sia che io parli di un gruppo misto o di un gruppo di soli uomini o un gruppo di sole donne è indifferente.
ดังนั้น ไม่ว่าฉันจะพูดถึงกลุ่มผสม หรือกลุ่มผู้ชายทั้งหมด หรือกับกลุ่มผู้หญิงทั้งหมด มันก็ไม่มีความแตกต่าง ใช้ตัวเดียวกันได้เลยค่ะ
– Vedete che è più facile di quello che pensavate.
พวกเธอเห็นไหมคะ ว่ามันง่ายกว่าที่พวกเธอคิดไว้อีกค่ะ
– Ultima cosa e poi vado a riposarmi, come dice il mio medico.
แล้วอย่างสุดท้าย และฉันก็จะไปพักผ่อนแบบที่หมอของฉันบอกค่ะ
– A prendere vitamine e un’altra bevanda calda.
ที่ให้ทานวิตามิน และดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ อีกถ้วย
– I pronomi combinati con i tempi composti.
พวกคำสรรพนามแบบ combinati ที่ใช้กับช่วงเวลา composti ที่มีคำกริยาสองตัว
– Benissimo.
ดีมากค่ะ
– Em… bene, allora, me lo ha detto il medico.
อืม… ค่ะ เอาหล่ะค่ะ หมอเขาได้บอกมันกับฉันแล้ว
– Prima di tutto prendo la bacchetta magica e questo lo, lo faccio diventare,
อย่างแรกเลยนะคะ ฉันจะหยิบไม้กายสิทธิ์ และคำว่า lo นี้ ฉันจะทำให้มันกลายเป็น
un po’ difficile, non si cancella col dito, va bene, faccio del mio meglio e lo faccio diventare l’.
มันยากนิดนึงค่ะ ใช้นิ้วลบไม่ออกค่ะ โอเค ฉันจะทำให้ดีที่สุด และฉันจะทำให้มันกลายเป็น l’ ค่ะ
– Bene.
ดีค่ะ
– Quindi stessa cosa.
ดังนั้น มันก็เป็นแบบเดียวกันค่ะ
– Mi ha detto il medico di stare a riposo, me l’ha detto il medico.
หมอได้บอกกับฉันแล้ว ว่าให้พักผ่อน หมอได้บอกมันกับฉันแล้ว
– Siccome qua abbiamo vocale con h muta, scusate io sono un po’ raffreddata, me l’ha detto il medico, e ho l’accordo.
เนื่องจากตรงนี้ พวกเรามีตัวสระกับตัว h ที่ไม่ออกเสียง พวกเธอยกโทษให้ด้วยนะคะ ฉันเป็นหวัดนิดหน่อย หมอได้บอกมันกับฉันแล้ว และ ho มีเงื่อนไขการใช้
– Quindi l’ho…
ดังนั้น จึงเป็น l’ho
– Quindi vi ricordate?
ดังนั้น พวกเธอจำกันได้ไหมคะ
– Nella lezione 27 io spiego l’accordo del participio con i pronomi diretti.
ในบทเรียนที่ 27 ฉันอธิบายเรื่องข้อตกลงของ participio กับพวกคำสรรพนามแบบตรงไว้อ่ะค่ะ
– Però rimane con o perché abbiamo il maschile.
แต่ก็เขียนด้วยตัว o เหมือนเดิม เพราะว่ามันเป็นเพศชายค่ะ
– Gliene ho date abbastanza.
ฉันได้ให้มันไปแล้วกับพวกเขามากประมาณนึงค่ะ
– Quindi siccome qua io dico abbastanza, abbastanza è una quantità, e sto parlando di fotocopie, quindi a loro, gliene significa a loro, abbastanza fotocopie.
ดังนั้น เนื่องจากตรงนี้ ฉันพูดว่า มากพอ คำว่า abbastanza มันบอกถึงปริมาณ และฉันกำลังพูดถึงแผ่นซีร็อกซ์ คือ ให้กับพวกเขา คำว่า gliene หมายถึง ให้กับพวกเขา พวกแผ่นซีร็อกซ์เหล่านี้ ก็ให้มากประมาณนึงค่ะ
– Gliene ho date abbastanza.
ฉันได้ให้มันไปแล้วกับพวกเขาจำนวนมากพอประมาณแล้วค่ะ
– Quindi gli ho dato abbastanza fotocopie, gliene ho date,
ดังนั้น ฉันได้ให้ใบซีร็อกซ์กับพวกเขาไปมากพอแล้วค่ะ ฉันได้ให้มันกับพวกเขาไปแล้วจำนวนนึง
accordo del participio perché si parla di fotocopie, abbastanza.
มีข้อตกลงของ participio เพราะว่ามันพูดถึงการซีร็อกซ์ มากเพียงพอ
– Bene.
ดีค่ะ
– Gliele ho date quasi tutte.
ฉันได้ให้มันกับพวกเขาไปแล้ว เกือบหมดเลยค่ะ
– Ma perché qua io dico ne e qua le?
แต่ว่า ทำไมตรงนี้ฉันพูดว่า ne และตรงนี้ le คะ
– Perché tutte, qua abbiamo tutte ed è un totale.
เพราะว่าคำว่า tutte ตรงนี้ พวกเรามี tutte คือปริมาณทั้งหมดค่ะ
– Anche se è quasi tutte.
แม้ว่ามันเกือบจะทั้งหมดเลยค่ะ
– Io uso la parola tutte e quindi mi serve il pronome diretto, la lezione 26.
ฉันใช้คำว่า tutte และดังนั้น ฉันจึงต้องใช้คำสรรพนามแบบตรง ในบทเรียนที่ 26 ค่ะ
– Invece uso abbastanza e allora mi serve il ne, lezione 30.
ส่วนตรงนี้ ฉันใช้คำว่า abbastanza ฉันจึงต้องใช้ ne อยู่ในบทเรียนที่ 30 ค่ะ
– E ovviamente dobbiamo rispettare l’accordo del participio.
และแน่นอนค่ะว่า พวกเราต้องเคารพกฎข้อตกลงของ participio ด้วยค่ะ
– Quindi date, date perché parliamo di fotocopie.
ดังนั้น ใช้คำว่า date ลงท้ายด้วย e เพราะว่าพวกเราพูดถึงพวกแผ่นซีร็อกซ์ ซึ่งเป็นเพศหญิง พหูพจน์ค่ะ
– Se fossero stati libri, glieli.
ถ้าตอนนั้นพูดถึงพวกหนังสือต่างๆ ก็ใช้ glieli เพราะเป็นเพศชาย พหูพจน์ค่ะ
– Vi ricordate?
พวกเธอจำกันได้ไหมคะ
– Ho parlato anche dei libri.
ตอนนั้นฉันก็พูดถึงเรื่องหนังสือต่างๆ ด้วยค่ะ
– Glieli ho dati tutti. Ok?
ฉันได้ให้มันทั้งหมดกับพวกเขาไปแล้ว โอเคไหมคะ
– Oppure gliene ho dati abbastanza, perché parlo dei libri.
หรือจะพูดว่า ฉันได้ให้พวกมันไปมากพอแล้ว ให้กับพวกเขาอ่ะค่ะ เพราะว่าฉันพูดถึงเรื่องหนังสือต่างๆ อยู่ เป็นเพศชาย พหูพจน์ค่ะ
– E che qua ho fatto qualche esempio.
และตรงนี้ ฉันก็ได้ยกตัวอย่างเอาไว้บ้างแล้วค่ะ
– Non gliene spiegati molti, ecco qua!
ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายให้พวกเขาฟัง มันอยู่ตรงนี้ค่ะ!
– Qua ho fatto questo esempio con ne perché parlo degli argomenti grammaticali.
ตรงนี้ ฉันได้ยกตัวอย่างนี้ กับคำว่า ne เพราะว่าฉันพูดถึงหลักไวยากรณ์ต่างๆ ค่ะ
– Io non gliene ho spiegati molti.
ตอนนั้น ฉันก็ไม่ได้อธิบายมันให้กับพวกเขามากสักเท่าไหร่
– Va bene?
โอเคไหมคะ
– Quindi a loro, quantità perché la quantità è molti, gli argomenti grammaticali.
ดังนั้น ไปที่พวกเขา พูดถึงปริมาณ เพราะว่าปริมาณคือคำว่า molti ซึ่งก็คือ พวกหลักไวยากรณ์ต่างๆ ค่ะ
– Quindi oggi abbiamo imparato questi pronomi combinati.
ดังนั้น วันนี้พวกเราก็ได้เรียนเรื่องคำสรรพนามแบบ combinati เหล่านี้ค่ะ
– Un’altra cosa, una cosa importante.
อีกอย่างนึงค่ะ เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ด้วยค่ะ
– Ricordate, come ho detto prima, che solo la terza persona ha i pronomi combinati, ha due pronomi che formano il pronome combinato insieme.
พวกเธอจำไว้นะคะ แบบที่ฉันพูดไว้ตอนแรกว่า มีแค่บุคคลที่สาม ที่มีพวกคำสรรพนามแบบ combinati มันมีคำสรรพนามสองคำ ที่พวกมันใช้รูปแบบคำสรรพนามแบบ combinato แบบเดียวกันค่ะ
– Quindi tutto attaccato.
ดังนั้น มันจะเขียนติดกันค่ะ
– Glielo, gliela, glieli, gliene, ecc.
แบบนี้ค่ะ glielo, gliela, glieli, gliene ฯลฯ
– Alla terza persona singolare e plurale.
ที่บุคคลที่สามเอกพจน์และพหูพจน์
– Tutti gli altri vanno staccati, quindi divisi.
ส่วนคำอื่นๆ พวกมันจะอยู่แยกกัน ดังนั้น มันจะอยู่แยกกันค่ะ
– Me lo dice sempre, te lo dico, anche perché vi spiego una piccola regola, una piccola osservazione.
เขาบอกมันกับฉันตลอดเลย ฉันบอกมันกับเธอ ฉันจะอธิบายกฎเล็กๆ กฎนึงให้พวกเธอฟังนะคะ มันเป็นข้อสังเกตเล็กๆ ค่ะ
– Se io scrivo melo tutto attaccato diventa l’albero delle mele.
ถ้าฉันเขียนว่า melo ติดกันแบบนี้ มันก็จะกลายเป็นต้นแอปเปิ้ลค่ะ
– Se io scrivo telo tutto attaccato diventa un telo che è un pezzo di stoffa grande, che serve per coprire.
ถ้าฉันเขียนว่า telo ติดกัน มันก็จะกลายเป็น ผ้า คือผ้าผื้นใหญ่ๆ ชิ้นนึงค่ะ ที่ใช้สำหรับปิดครอบคลุมอ่ะค่ะ
– E quindi crea ambiguità.
และมันก็จะทำให้เกิดความสับสนค่ะ
– Invece glielo non vuol dire nessun’altra cosa, non significa nessun’altra cosa e va tutto attaccato.
ส่วนคำว่า glielo มันจะไม่ซ้ำกับคำอื่น มันไม่มีความหมายอื่น และก็เขียนติดกันด้วยค่ะ
– Anche velo se io scrivo tutto attaccato è il velo della sposa, per esempio.
คำว่า velo ก็เหมือนกันค่ะ ถ้าฉันเขียนติดกันแบบนี้ มันคือผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว นี่คือตัวอย่างค่ะ
– Va bene?
เข้าใจไหมคะ
– Eh va bene.
โอเคค่ะ
– Sì, lo so vi faccio ridere con il mio pigiama.
ใช่ค่ะ ฉันรู้ค่ะว่า ฉันทำให้พวกเธอหัวเราะ ด้วยชุดนอนของฉัน
– Non sembro neanche seria.
ฉันดูไม่จริงจังเลย
– Faccio la seria però sono in pigiama ma ve l’ho detto, faccio questa lezione solo per voi.
ฉันสอนอย่างจริงจัง แต่ว่าฉันอยู่ในชุดนอน แต่ฉันก็ได้บอกมันกับพวกเธอไปแล้ว ฉันทำบทเรียนนี้ขึ้นมา ก็เพื่อพวกเธอเท่านั้นค่ะ
– Domani non devo andare a lavorare.
พรุ่งนี้ฉันไม่ต้องไปทำงาน
– E va bene, quindi ricordatevi questa cosa .
โอเคค่ะ ดังนั้น พวกเธอจำสิ่งนี้ไว้นะคะ
– E vi ricordate questa cosa, ricordate, e ricordatevi che, come ho detto nella lezione 27,
และพวกเธอจำสิ่งนี้กันไว้นะคะ พวกเธอจำไว้ว่า ก็อย่างที่ฉันเคยบอกไปแล้วในบทเรียนที่ 27
con i tempi composti abbiamo l’accordo del, del participio, perché ci sono dei pronomi diretti e c’è il pronome ne.
กับพวกช่วงเวลา composti พวกเราจะมีข้อตกลงร่วมกับ participio ด้วยค่ะ เพราะว่ามันมีพวกคำสรรพนามแบบตรง และมันมีคำสรรพนาม ne ด้วยค่ะ
– Quindi ricordate tutta questa roba ragazzi.
ดังนั้น พวกเธอก็จำสิ่งนี้กันไว้ให้หมดนะคะ เพื่อนๆ
– Va bene, io direi di concludere questa lezione.
โอเคค่ะ ฉันคิดว่าฉันควรจะสรุปบทเรียนนี้ได้แล้วค่ะ
– La prossimo volta starò meglio e non indosserò il pigiama, ve lo prometto.
คราวหน้าฉันจะสบายดีมากขึ้น และฉันก็จะไม่ใส่ชุดนอนค่ะ ฉันให้สัญญากับพวกเธอค่ะ
– Un caro saluto raffreddato.
ก็เป็นการร่ำลาด้วยความรักแบบเป็นหวัดค่ะ
– E ci vediamo la prossima volta.
และพวกเราก็มาพบกันใหม่คราวหน้าค่ะ
– Continuate a seguirmi su oneworlditaliano.com
พวกเธอก็ติดตามฉันกันต่อไปได้ที่ oneworlditaliano.com ค่ะ
– Ciao a tutti e alla prossima.
บ๊ายบายค่ะทุกๆ คน และพบกันคราวหน้าค่ะ
เราเรียนอยู่ในระดับ B1 แล้วนะคะ นั่นแสดงว่า เราต้องพูดได้ และฟังออกด้วยนะคะ เพราะฉะนั้น หลังจากที่เรียนบทเรียนนี้จบแล้ว
1.ก็ควรไปฟังครูอิตาลีคนอื่นๆ ที่เขาสอนเรื่องนี้อีก ที่ยูทูป แล้วก็อย่าลืมจดลงสมุดด้วยนะคะ
2.ต้องฟังออก จดสิ่งที่ได้ยินลงสมุดได้ และต้องพูดตามเขาทันทุกคำด้วยค่ะ ถ้ายังไม่ทันก็ดูวิดีโอซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะพูดตามได้ทันค่ะ
3.ถ้าเริ่มงง และรู้สึกว่าการเรียนเริ่มยากไปแล้ว ให้กลับไปเรียนซ้ำทุกอย่างที่เราเคยเรียนไปแล้วในวันก่อนๆ ค่ะ
จำสุภาษิตที่ว่า “ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม” ได้ไหมคะ เราไม่ควรรีบร้อนเรียนค่ะ เพราะว่าการเรียนแบบเร็วๆ มันจะทำให้เราจำได้ไม่หมด ตกหล่นหลายสิ่งหลายอย่าง แล้วก็จะทำให้เราหงุดหงิดและปวดหัวเปล่าๆ ค่ะ
ท้ายสุดนี้ ก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณน้องมายด์ ที่ตั้งใจเรียน และตั้งใจแปลวิดีโอนี้มาให้พวกเราได้เรียนกันแบบสะดวกสบายมากขึ้นค่ะ ตอนนี้น้องมายด์เริ่มสอนภาษาอิตาลีแล้ว ยาก็ขอเชิญให้ทุกคนไปดูที่เพจของเธอกันค่ะ
เรียนภาษาอิตาเลียนด้วยตัวเอง (สมุดส่งการบ้าน)
เพิ่มเติม
ชีวิตหญิงไทยในต่างแดน เฟสบุ๊คเพจ
โปรดลงทะเบียนเพื่อรับThai Women Living Abroad ข่าวสารใหม่อย่างต่อ