บทสัมภาษณ์ผู้หญิงไทยที่ย้ายไปอยู่ยังต่างประเทศ ครั้งนี้ผมอยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับผู้หญิงไทยที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ยังประเทศนิวซีแลนด์ เธอคือคุณยุ้ย และนี่คือ มุมมอง ประสบการณ์ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศนิวซีแลนด์
ผมอยากจะแนะนำคุณกับคุณยุ้ย จากเพจ Nickyyui’s Eyes
ย้ายมาอยู่ประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand)
เมือง: พิกตัน (Picton) ของเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์
รูปถ่ายทั้งหมดนี้คือผลงานตัวอย่างส่วนหนึ่งของคุณยุ้ย
YouTube: Nickyyui’s EYES
ในมุมของยุ้ย การปรับตัวของคนไทยให้เข้ากับการใช้ชีวิตของชาติอื่นๆ เป็นไปได้ง่ายค่ะ คนไทยค่อยข้างชอบรู้ชอบลองสิ่งใหม่ๆ และใช้มันค่ะ ยุ้ยเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีปัญหากับการปรับตัว
เริ่มตั้งแต่แรกเลยคุณมาอยู่ประเทศเทศนิวซีแลนด์เพราะอะไร และคุณอาศัยอยู่ที่เมืองอะไรในประเทศเทศนิวซีแลนด์ครับ
ตอบ
เริ่มมาจากมานิวซีแลนด์ในปี 2015 ด้วยโครงการ working and holiday scheme ค่ะ เป็นเวลา 12 เดือน ก็ท่องเที่ยวและทำงานในประเทศนิวซีแลนด์ เดินทางไปเรื่อยๆ อยากไปให้ได้ทุกเมือง เพราะคิดว่าจะกลับไทยเมื่อจบวีซ่าค่ะ
อย่างที่เล่าให้ฟังปีแรกเดินทางไปเรื่อยๆ ไม่เป็นหลักแหล่งค่ะ จนสิบเดือนผ่านไป เดินทางมาถึงเมือง Picton ซึ่งเป็นเมืองท่าเล็กๆ เหนือสุดของเกาะใต้ ผ่านมาแล้วชอบเมืองนี้ค่ะ มันเป็นธรรมชาติ คนยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเอง เลยหางานทำที่นี่และได้เจอสามีที่เมืองนี้ค่ะ
คุณเกิดและเติบโตที่ไหนที่ประเทศไทยครับ ช่วยบอกเราได้ไหมครับว่าชีวิตวัยเด็กนั้นเป็นอย่างไรครับ
ตอบ
ยุ้ยเกิดที่จังหวัดพิษณุโลกค่ะ แต่คุณพ่อช่วงนั้นทำงานเป็นวิศวะกรที่ต้องเดินทางเปลี่ยนงานบ่อยๆ งานเป็นโปรเจกๆ ไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณพ่อกลัวพวกเราต้องเร่ร่อนเลยให้คุณแม่อยู่ดูแลเราที่พิษณุโลก จนยุ้ยอายุได้ 5 ปี ก็เป็นจุดเปลี่ยน เราทั้งครอบครัวย้ายตามคุณพ่อไปอยู่ชลบุรีค่ะ ….จุดนี้ยุ้ยเลยไม่มั่นใจว่ายุ้ยเป็นคนพิษณุโลก หรือชลบุรีดี เพราะจะว่าไปก็ไม่ได้รู้จักเมืองที่เกิดพิษณุโลกได้ดีขนาดนั้น
ชีวิตในวัยเด็ก ยุ้ยเป็นลูกคนกลาง พี่ชาย (โตกว่า 1 ปี) น้องสาว (เด็กกว่า 5 ปี) ยุ้ยค่อนข้างเป็นเด็กขี้แงแต่เด็กคือบอบบางมากค่ะ เจ็บนิดหน่อยก็ร้องให้ตลอด ร้องเป็นเรื่องปกติ ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะปีกกล้า ขาแข็งย้ายมาอยู่ต่างประเทศได้ค่ะ
ตอนเด็กเรียนที่ชลบุรีจนจบป.ปลาย แล้วก็ย้ายมาอยู่ กทม คนเดียวตั้งแต่อายุ 18 ค่ะ มาเรียนที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย จนเรียนจบและทำงานที่กทม ตั้งแต่นั้นจบถึงปี 2015 ที่เดินทางมานิวซีแลนด์ค่ะ
คุณทำอาชีพอะไรครับ และคุณเคยทำอาชีพอะไรมาบ้างครับตั้งแต่มาอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ครับ / คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม คุณคิดว่าภาษาอังกฤษยากสำหรับคุณไหมและคุณใช้เวลาเรียนรู้ฝึกฝนนานแค่ไหนกว่าคุณจะพูดภาษาอังกฤษเข้าใจและสื่อสารได้ และคุณพูดภาษาอื่นได้อีกไหม
ตอบ
ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อค่ะ คาดว่าในอนาคตคงทำธุจกิจเล็กๆ ด้านการบัญชีค่ะ
ยุ้ยเคยอาชีพอะไรมาบ้าง? อืมมตอนอยู่ไทยเป็นนักวิทยาศาสตร์ ธรณีวิทยาค่ะ พอมาอยู่ที่นิวซีแลนด์ทำงานจับฉ่าย มั่วไปหมดค่ะ ทั้ง
hospitality เช่นพนักงานหน้าร้าน, พนักงานในครัว, ผู้ช่วยพ่อครัว และก็ผู้จัดการร้านอาหาร รวมทั้งพนักงานทำกาแฟด้วยค่ะ ทั้งร้านไทยและคาเฟ่ของนิวซีแลนด์
งาน Agriculture เช่น thinning , pruning , picking ค่ะ เก็บบลูเบอร์รี่,ถอนหญ้า กำจัดวัชพืช,เก็บแอปเปิ้ล ฯลฯ
งานโรงงานก็มีโรงแพค ฟักทองเพื่อส่งออก ทำหน้าที่แยกลูกเสีย/มีแนวโน้มว่าจะเสีย ออกค่ะ
งานด้าน office ก็มีเป็น admin ดูแลเอกสารและข้อมูลต่างๆค่ะ
งาน retail ร้านขายของต่างๆ ก็พอมีประสบการณ์อยู่บ้างค่ะ แต่ไม่ได่ทำงานนี้นาน เพราะบ้านอยู่ไกลค่ะ
พูดภาษาอังกฤษได้ในระดับพอใช้ค่ะ ภาษาอังกฤษไม่ยากค่ะ แค่ต้องเปิดใจ และใช้ให้คล่องค่ะ
จริงๆ หากถามว่าใช้เวลาฝึกนานมั้ย หากนับจริงๆ ก็ตั้งแต่เด็กๆ ที่เริ่มจาก A,B,C เลยค่ะ ใช้เวลา ตั้งแต่อนุบาล จนจบมหาวิทยาลัย … เอาจริงๆ ก็ยังพูดไม่ได้ค่ะ อายและไม่กล้าออกเสียง .. แต่อ่าน ฟัง และเขียนพอได้ค่ะ พอได้ทำงาน โชคดีเป็นบริษัทต่างชาติ เพื่อนรวมงานเป็นชาวต่างชาติ 50% ก็คอยซึมซับ ค่อยๆ เริ่มกล้าพูดขึ้นมาค่ะ … ส่วนเมื่อย้ายมานิวซีแลนด์ก็แทบไม่มีปัญหาในการใช้ภาษา ยกเว้นบางคำ ที่เราไม่คุ้นเคย ไม่เคยได้ยิน ไม่รู้ความหมาย สิ่งที่ต้องทำคือถามค่ะ ว่าหมายความว่าอย่างไร … อย่าอาย ที่จะถาม ถ้าไม่ถาม เราก็ไม่รู้ค่ะ
ภาษาอื่น
ภาษาที่ 3 คือภาษาเยอรมันค่ะ เคยฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน อยู่แต่ในระดับ beginner ค่ะ พอโต้ตอบสื่อสารได้ แต่จะค่อนข้างช้าค่ะ
ภาษาที่ 4 ตอนนี้เรียนภาษาจีนกลางอยู่ค่ะ เพิ่งเรื่มเรียนค่ะ จึงยังฟังไม่ได้ พูดไม่ได้ … เริ่มจากเขียนตัวอักษรก่อนค่ะ
ในมุมมองของคุณ คุณคิดว่ามันยากไหมสำหรับการที่คนไทยต้องปรับตัวไปใช้ชีวิตแบบคนนิวซีแลนด์ แล้วถ้ามันยาก มันยากยังไง และอะไรเป็นเรื่องที่ปรับตัวยากที่สุด
ตอบ
ในมุมของยุ้ย การปรับตัวของคนไทยให้เข้ากับการใช้ชีวิตของชาติอื่นๆ เป็นไปได้ง่ายค่ะ คนไทยค่อยข้างชอบรู้ชอบลองสิ่งใหม่ๆ และใช้มันค่ะ ยุ้ยเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีปัญหากับการปรับตัว การวางตัวในสังคมการใช้ชีวิตแบบชาวต่างชาติ ในที่นี้หมายถึงชาวนิวซีแลนด์ค่ะ …
สิ่งที่ยากที่สุดในการปรับตัว จากประสบการณ์ที่ยุ้ยได้สัมผัสมา คือการเข้าสังคมค่ะ คนนิวซีแลนด์จะมีนิสัยที่ค่อนข้างขี้เล่น กล้าพูดกล้าเจรจาไปซะหมด แซวเอาซึ่งๆหน้าและเป็นคำแรงๆ แรงแบบยุ้ยไปต่อไม่ถูกเลยค่ะ (ปัจจุบัน ถ้าโดนคำแซวแบบล้อเล่นแรงๆ แบบนี้อีก ก็ไม่ทราบจะตอบอย่างไรอีก ถ้าเป็นคนไทย ยุ้ยว่าคงมีเรื่องกันแน่ๆเลยค่ะ) มันเป็นคำแซวแนวๆ หมิ่นเกียรติ์ แนวๆเหยียดเชื้อชาติ นิดหน่อยด้วยค่ะ 5555
มันยากตรงที่เราต้องทำใจเจอกับคำตรงแรงๆ ต่อหน้า บางทีแซว และพูดแรงจนอยากจะลุกออกมาจากที่นั่งตรงนั้น หรือต้องปั้นหน้าหัวเราะกลบเกลื่อนมุขที่มันไม่ได้เรื่อง หรือตำแซวแนวเหยียดที่เค้าได้พูดออกมา
(ตอนนี้ยุ้ยยังปรับตัวกับจุดนี้ค่อนข้างยาก บางทีก็ต้องหัวเราะกลบเกลื่อนไป ทั้งๆ ที่ใจไม่ได้คิดแบบนั้นค่ะ เลยทำให้ปัจจุบัน ถ้าไปกับเพื่อนที่ไม่รู้จักกันมากเท่าที่ควร ยุ้ยก็จะไม่ค่อยได้ไปร่วมเข้าสังคมกับเค้าค่ะ) …เพื่อนบางคนของยุ้ยก็จะมองว่ายุ้ยเข้าถึงยากค่ะ
ลักษณะนิสัยคืออะไรของคนนิวซีแลนด์ โดยทั่วไปแล้วคนในนิวซีแลนด์ชอบทำอะไร และคุณบอกผมได้ไหมว่าผู้ชายนิวซีแลนด์เป็นอย่างไร(บุคลิกลักษณะ) ผู้หญิงนิวซีแลนด์เป็นอย่างไรและครอบครัวของคนนิวซีแลนด์เป็นอย่างไร
ตอบ
ลักษณะนิสัยทั่วไปของคนกีวี่ ยุ้ยว่าส่วนใหญ่เป็นคนตรงๆ เปิดเผย ใจกว้าง รักธรรมชาติ ประหยัด มัธยัด และค่อนข้างเป็นระเบียบค่ะ ส่วนน้อยก็มีนะคะที่ตรงกันข้ามกับที่ยุ้ยได้กล่าวมาข้างต้น
ทั่วไปแล้วคนกีวี่ชอบการแคมป์ปิ้ง เป็นชีวิตจิตใจ ชอบการผจญภัย ผาดโผนและกีฬากลางแจ้ง รวมทั้งชอบการเดินเรือ จึงจะเห็นว่าคนส่วนมากในนิวซีแลนด์ที่เป็นเมืองติดทะเล ผู้คนจะมักมีเรือเพื่อเดินทาง ท่องเที่ยว และผจญภัยค่ะ
ผู้ชายนิวซีแลนด์หรอคะ ยุ้ยว่าส่วนใหญ่บุคคลิกจะคนเป็นคนลุยๆ ไม่ค่อยสำอางค์ ไม่ค่อยใช้ของแบรนด์ แนวแฟชั่นจะเป็นแนวๆ ล้าๆ กว่าผู้ชายประเทศอื่นๆ และด้วยกิจกรรมข้างต้นที่กล่าวมา ทำให้ชาวกีวี่รักษาหุ่นได้ดี ช่วงวัยรุ่นจนถึงวันกลางคนค่ะ … พออายุมากขึ้นบางคนก็ยังมีรูปร่างที่ค่อนข้างดีมากค่ะ
ผู้หญิงนิวซีแลนด์ ค่อนข้างที่จะเป็นผู้หญิงเก่ง มีความมั่นใจ สามารถทำทุกอย่างที่ผู้ชายทำได้ แคมป์ปิ้ง ร่องเรือ ทำงานท้าทาย และอื่นๆ ค่ะ แนวการแต่งตัวก็คล้ายๆ กับผู้ชาย ที่ไม่ค่อยติดแบรนด์ แต่จะร่วมด้วยช่วยกัน ใช้ของที่ผลิตในนิวซีแลนด์ หรือผลิตภัณฑ์ของนิวซีแลนด์ค่ะ
ครอบครัวของคนนิวซีแลนด์ ค่อนข้างที่จะลุยๆ เด็กๆ ต้องมีวินัย เดินตามพ่อแม่ ช่วยพ่อแม่ตามความสามารถที่ช่วยได้ คุณพ่อและคุณแม่ก็จะร่วมมือกันดูแลปลูกฝังเด็กๆ ทำให้เด็กๆ ส่วนใหญ่ โตขึ้นมามีวินัยค่ะ เคารพผู้อื่นค่ะ
ค่าครองชีพที่นิวซีแลนด์เป็นอย่างไร อะไรที่คุณคิดว่ามันแพงเกินไป (3 things) และอะไรที่คุณคิดว่ามันมีคุณค่าเหมาะสมกับราคา (3 things)
ตอบ
ค่าครองชีพที่นิวซีแลนด์ ยุ้ยว่าพูดยาก ณ จุดนี้ … ยุ้ยเชื่อว่า ทุกประเทศก็มีค่าครองชีพที่สูงเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของคนในประเทศ สิ่งที่แตกต่างคือ lifestye การใช้ชีวิตของคนนั้นๆค่ะ บางคนจึงมองว่าค่าครองชีพสูง บางคนก็ไม่มีผลกระทบมากหากไม่ใช้สินค้าสิ้นเปลืองเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และอาหาร/ขนมประเภทไม่มีประโยชน์ค่ะ
อะไรที่ยุ้ยคิดว่าแพงเกินไป
1. ราคาบ้านหรือที่อยู่อาศัยค่ะ ราคาขึ้นทุกปี
2.ค่าทำฟัน พบหมอฟันแต่ละครั้ง ราคาแพงมากค่ะ ยุ้ยเคยพาเพื่อนไปถอนฟัน 1 ซี่ (ราคา $190 + GST) รวมๆ แล้วเกือบๆ 5,000 บาท
3. ค่าปรับค่ะ (5555) หากเราทำผิดอะไร การจ่ายค่าปรับที่นี่ค่อนข้างโหดเลยค่ะ ตัวอย่างเช่น ค่าปรับจอดรถเกินเวลา ค่าปรับเมื่อทำผิดกฎจราจร
3 สิ่งที่ยุ้ยคิดว่ามีราคาที่เหมาะสมคือ
1. ราคาค่าการเรียน/การศึกษา … ค่าเรียนของคนที่นี่ (ไม่รวม International) ถือว่าเหมาะสม
2. ราคารถยนต์ การนำเข้ารถยนต์ ก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล เนื่องจาก NZ เป็นประเทศที่ค่อนข้างไกล ค่าส่ง (shipping) ก็อาจจะมาก แต่คุณทราบมั้ยคะ ราคารถยนต์ที่นี่ถูกกว่าที่ประเทศไทยค่ะ
3. สินค้าผลผลิต ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเช่นผัก ผลไม้ น้ำผึ้ง ปลาแซลมอน หรือหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กล่าวรวมๆคือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ ค่อนข้างมีคุณภาพ และราคาดีค่ะ
บอกข้อดี 3 ข้อของการใช้ชีวิตอยู่ในนิวซีแลนด์ตามความคิดเห็นของคุณ – บอกข้อเสีย 3 ข้อของ การใช้ชีวิตอยู่ในนิวซีแลนด์
ตอบ
ข้อดี 3 ข้อของการใช้ชีวิตอยู่ในนิวซีแลนด์
1. รถไม่ติด – มลพิษน้อย ทำให้อากาศดี ทำให้ยุ้ยมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยส่วนตัวแล้วยุ้ยเป็นโรคภูมิแพ้ เป็นหนักเอาการ แต่พอมาอยู่ที่นี่ อาการมันทุเลาไปมากๆค่ะ ดีขึ้น 80-90% (รวมถึงไมเกรนด้วยค่ะ)
2. ระบบความคิดเป็นระบบ ระเบียบขึ้น… เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตที่นี่ เช่นเช็คสภาพอากาศเพื่อเตรียมความพร้อม เช่น ซักผ้า-ตากผ้า แต่งตัว หรือเตรียมของใช้ ตามสภาพอากาศของวันถัดไป
3. ข้อดีข้อสุดท้ายขอกล่าวถึงผู้คน ผู้คนที่นี่ค่อนข้างใจดี เฟรนลี่มากๆ
คอยเป็นห่วงเป็นใยเรา เพราะเรายังใหม่กับประเทศนี้ แนะนำเราสารพัด ที่คิดว่าดีกับเราค่ะ …. โดยรวมคนที่นี่ดีค่ะ 95% ที่ยุ้ยเจอมา ใจกว้างมากๆ
ข้อเสีย 3 ข้อ
1. อยู่ไกลครอบครัวที่ไทย อยู่ห่างจากครอบครัวที่เรารัก และสมัยนี้ ทำให้บางทีก็ห่อเหี่ยวหัวใจนะคะ
2. ห้างร้านขายของที่นี่ค่อนข้างปิดเร็ว ถึงเร็วมาก และไม่มีร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงเหมือนที่ไทย …ที่หิวเมื่อไร ก็แวะมา ….. จึงต้องมีการวางแผน ตามที่กล่าวมาข้างต้นค่ะ
3.คนส่วนน้อยของที่นี่ (โดนเฉพาะคนอายุเยอะๆ 60 ขึ้นไป) จะค่อนข้างคาดหวังให้เราใช้ภาษาได้เหมือนเจ้าของภาษา ซึ่งเราไม่ใช่ค่ะ (แต่ก็พยายามเต็มความสามารถแล้วค่ะ) บางทีก็รู้สึกเหมือนถูกเหยียดเบาๆค่ะ (หรือคิดไปเองน๊า)
ในความคิดของคุณอะไรคือปัญหาที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักชาวไทยกับชาวนิวซีแลนด์
ตอบ
ในความคิดของยุ้ย ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักชาวไทยกับชาวนิวซีแลนด์ คือความไม่เข้าใจค่ะ อาจจะเป็นในทางภาษา, ความนิยม, อาหารการกิน, วัฒนธรรมและอื่นๆ ค่ะ
ขอยกตัวอย่างประสบการณ์ของยุ้ยเอง ช่วงปีแรกๆ ยุ้ยมีปัญหาบ่อยครั้ง ที่เกิดจากความไม่เข้าใจวัฒนธรรมชาวเอเชีย ที่จะมีการแบ่งปัน อาจจะในมุมของการส่งเงิน หรือของขวัญกลับบ้านให้ครอบครัว หรือคนที่รัก หรือแม้ว่าทำอาหารไปวัดไทยในนิวซีแลนด์ หรือทำอาหารแล้วแบ่งปันตามบ้านคนไทยหรือเอเชีย แม้กระทั่งซื้อของจำเป็นที่จำเป็นสำหรับใช้ชีวิตใส่ตู้ปันสุขค่ะ (ส่วนนี้เกิดขึ้นในคู่ของยุ้ยนะคะ)
ตั้งแต่ที่คุณย้ายจากประเทศไทยมาอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ครั้งแรกมีวัฒนธรรมหรือการปฏิบัติอย่างใดของชาวนิวซีแลนด์บ้างครับที่คุณรู้สึกประหลาดใจ ( cultural shock ) ช่วยบอกผมมาอย่างน้อยสัก3 ข้อ
ตอบ
ตั้งแต่ยุ้ยย้ายมาจากประเทศไทยมาอยู่ที่นิวซีแลนด์ ในครั้งแรกๆ ที่รู้สึกปะหลาดใจคือ
1. คนที่นี่จะเถียรตรงเรื่องเวลาพอสมควรค่ะ นัดเป็นนัดค่ะ หากมาสาย แล้วไม่แจ้งให้ทราบถือว่าเสียมารยาทมากๆเลยค่ะ
2. คนส่วนใหญ่เคารพกฎหมาย ทำตามกฎอย่างเป็นระเบียบ ไม่เอาเปรียบคนอื่นค่ะ
3. คนที่นี่จะพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ไม่(ค่อยโกหก) ทำอะไรผิดก็จะยอมรับผิด หากใครทำดีก็จะได้รับคำชมค่ะ
ผู้หญิงไทยบางคนคิดว่าการย้ายมาอยู่ต่างประเทศ / นิวซีแลนด์ จะทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น คุณมีคำแนะนำที่จะบอกผู้หญิงไทยที่คิดแบบนี้อย่างไร และคุณมีคำแนะนำอะไรที่จะแนะนำให้พวกเขาต้องระมัดระวังบ้างไหม
ตอบ
ยุ้ยคิดว่าคำว่าชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับแล้วแต่คนมองมากกว่าค่ะ ไม่เพียงแต่แค่ผู้หญิงไทยที่มาอยู่ต่างประเทศเท่านั้น ผู้คนเจ้าของประเทศ เค้าก็คิดแบบนี้เช่นกันค่ะ ว่าชาวเอเชียที่มาอยู่ต่างประเทศก็เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ยุ้ยว่าหากเรามีโอกาสออกมาเผชิญโลกกว้าง ได้หัดลองใช้ชีวิตในแบบที่เราไม่เคยใช้ที่ประเทศไทย เรียนรู้กับมันยุ้ยว่าคุ้มค่า
ยุ้ยว่าหากผู้หญิงไทยท่านไหน อยากจะย้ายมาอยู่ต่างประเทศ ยุ้ยว่ามองดีๆค่ะ ลองเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ของการออกมาเผชิญโลกกว้าง หากผู้หญิงไทยบางคนอยากจะมาแต่งงาน แล้วมาใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ ยุ้ยอยากบอกว่าให้ศึกษากฎหมายของประเทศนั้นๆ ดีๆ ด้านกฎหมายครอบครัว และอย่ามองว่าชาวต่างชาติ (ฝรั่ง) รวยทุกคน บางทีเค้าแค่ต้องการคุณมาช่วยทำงาน จ่ายค่าเช่าบ้าน และแชร์ค่าอาหารก็เป็นได้

YouTube: Nickyyui’s EYES
1. Nickyyui’s EYES เป็นช่องเกี่ยวกับ lifestyle ชีวิต แนะนำการหางาน และข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับการหางาน ในประเทศนิวซีแลนด์ และประเทศอื่นๆ ค่ะ ใครอยากรู้ว่า lifestyle การใช้ชีวิตในชนบทของ NZ ที่ยุ้ยอยู่เป็นอย่างไร ตามดูที่ช่องของยุ้ยนะคะ
Facebook: Nickyyui’s Eyes
2. ช่อง youtube JOEPY J. เป็นอีกช่องยูทูปของยุ้ย ที่กำลังจะสร้างขึ้นเพื่อแนะนำ แหล่งที่เที่ยว ร้านอาหาร รีวิวสินค้าต่างๆ ช่องนี้จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักค่ะ เน้นการ vlog ออกนอกสถานที่ค่ะ
เพิ่มเติม
ชีวิตหญิงไทยในต่างแดน เฟสบุ๊คเพจ
โปรดลงทะเบียนเพื่อรับThai Women Living Abroad ข่าวสารใหม่อย่างต่อเนื่อง