บทสัมภาษณ์ผู้หญิงไทยที่ย้ายไปอยู่ยังต่างประเทศ ครั้งนี้ผมอยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับผู้หญิงไทยที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ยังประเทศ ไอซ์แลนด์ เธอคือคุณ Nangfar และนี่คือ มุมมอง ประสบการณ์ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศไอซ์แลนด์
ผมอยากจะแนะนำคุณกับคุณ Nangfar
เริ่มตั้งแต่แรกเลยคุณมาอยู่ประเทศไอซ์แลนด์ เพราะอะไร และคุณอาศัยอยู่ที่เมืองอะไรในประเทศไอซ์แลนด์ครับ
มาอยู่ประเทศไอซ์แลนด์ เพราะแฟนขี้เกียจบินไปมา ไอซ์แลนด์ – ไทย ซึ่งระยะทางไกลมาก ต้องต่อเครื่องบินสองต่อ โดยปกติแฟนจะบินไปหาที่ไทยเดือนเว้นเดือนค่ะ บวกกับแฟนห่วงไม่อยากให้อยู่ไกลตา เลยตัดสินใจแต่งงานค่ะ แล้วก็ย้ายมาอยู่กับแฟน เมืองที่อยู่ชื่อเมืองอาคูเรรี อยุ่ทางเหนือของไอซ์แลนด์ค่ะห่างจากเมืองหลวงเรกยาวิกขับรถประมาณ 5 ชั่วโมง
คุณเกิดและเติบโตที่ไหนที่ประเทศไทยครับ ช่วยบอกเราได้ไหมครับว่าชีวิตวัยเด็กนั้นเป็นอย่างไรครับ
เป็นคนอีสานค่ะ เกิดและโตที่สุรินทร์ มีพี่น้อง 2 คนมีน้องสาวอายุห่างกัน 3 ปี เป็นพี่คนโต ครอบครัวคุณพ่อรับราชการ ส่วนคุณแม่ทำเกษตรกรรม ทำนา ทำสวนยาง มีฟาร์มหมู เป็นเด็กบ้านนอก ฐานะทางบ้านปานกลาง ชีวิตตอนเด็กเริ่มแรกเรียนอนุบาลที่โรงเรียนใกล้บ้านพออายุ 9 ขวบ ป. 3 พ่อกับแม่อยากให้ย้ายไปเรียนโรงเรียนในเมือง น้องสาวก็ไปเรียนด้วยโรงเรียนเดียวกัน ต้องตื่นขึ้นรถรับส่งไปเรียนตั้งแต่ตี 5 ทุกวัน พออายุ 13 ม.1 สอบโรงเรียนในเมืองไม่ติดเลยย้ายมาเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน ปั่นจักรยานไปเรียนทุกวัน พออายุ 16 ม.4 เรียนในเมือง เพราะสอบเข้าได้พ่อกับแม่พากันดีใจใหญ่เลยเพราะสอบติดโรงเรียนประจำจังหวัดสอบติดแบบฟลุ๊คๆ ต้องนั่งรถรับส่งและไปเรียนแต่เช้าตี 5 เหมือนเดิมกลับถึงบ้านก็มืดทุ่มหนึ่งกว่ารถรับส่งจะรอครบคน พอเข้ามหาลัยเลือกเรียนมหาลัยใกล้บ้านไม่อยากไปเรียนที่ไหนไกลอยากช่วยงานที่บ้านด้วยเสาร์-อาทิตย์ ชอบทางด้านการเกษตรเลยเข้าราชมงคลสุรินทร์ เลือกเรียนเอกพืชศาสตร์ -พืชไร่นา เรียนจบมาก็สอบเข้างานราชการ สอบติดค่ะ แต่ที่ทำงานเป็นที่ กทม. ไม่ค่อยชอบ กทม. เท่าไหร่ เพราะรถติด คนเยอะ มลพิษก็เยอะ เลยเลือกไม่ไปทำงาน อยู่บ้านช่วยทำงานที่บ้านอยู่ประมาณ 3 ปี ก็เล่นอินเตอร์เน็ตเจอกันแฟน คบกันอยู่เกือบ 4 ปี แต่งงานกัน
ตอนนี้คุณทำอาชีพอะไรครับ และคุณเคยทำอาชีพอะไรบ้างครับตั้งแต่มาอยู่ที่ ประเทศ ไอซ์แลนด์ครับ
ตอนนี้ไม่ได้ทำงานค่ะ อยู่บ้านทำงานบ้าน เวลาว่างหัดทำเค้ก คุกกี้ แล้วก็มีเรียนภาษาไอซ์แลนด์ดิกวันจันทร์ถึงพุธ คืออยากเรียนภาษาให้แข็งแรงก่อนแล้วค่อยหางานทำ อีกอย่างงานในเมืองที่อยู่หายากพอสมควร แล้วเพราะคนที่นี่เขาไม่ค่อยพูดอังกฤษกัน ก่อนมาอยุ่ที่ไอซ์แลนด์ ช่วยทางบ้านทำไร่ ทำสวน
คุณพูดภาษาไอซ์แลนด์ดิกได้ไหม คุณคิดว่าภาษาไอซ์แลนด์ดิกยากสำหรับคุณไหมและคุณใช้เวลาเรียนรู้ฝึกฝนนานแค่ไหนกว่าคุณจะเข้าใจจนสื่อสารได้ และพูดภาษาอื่นได้ไหม
ตอนนี้เริ่มพูดภาษาไอซแลนด์ดิกได้นิดหน่อยคะ เนื่องจากไปเรียนมา พูดได้เป็นคำๆ แต่เรียงเป็นประโยคยังไม่ค่อยถูก คิดว่าน่าจะใช้เวลา 5-6 ปี น่าจะสื่อสารได้ ถ้าจะเข้าใจหมดต้องใช้ทั้งชีวิตค่ะ ภาษาไอซ์แลนด์เป็นภาษาที่ยากมาก เพราะ การนับเลขแยกชายหญิง เด็ก สิ่งของนับคนละอย่างกัน คำถามชายหญิงก็ถามคนละประโยคกัน ตอนไปเรียนวันแรกงงมากตอนอยู่ที่บ้านแฟนสอนแต่ประโยคง่ายๆ เช่น คำว่าขอบคุณ ใช่ กับ ไม่ พอไปเรียนคุณครู เขาสอนพูดพยัญชนะ ใช้เวลาอาทิตย์หนึ่งกว่าจะพูดได้ เพราะลิ้นไม่ไปตามที่เราออกเสียง นอกจากภาษาไทย ก็พูดภาษาเขมรได้เพราะที่บ้านที่สุรินทร์บ้านอยู่ใกล้กัมพูชาเลยสื่อสารภาษาเขมร แล้วภาษาอังกฤษสื่อสารได้ปานกลาง เพราะตอนเรียนโรงเรียนจบมาไม่ได้ใช้ 3-4ปี ลืมหมดพอมาเจอกับแฟนก็พูดไม่ได้แล้วแรกๆใช้ภาษามือเปิดดิกชันนารีสื่อสารกัน ตอนนี้เปิดบ้างนานๆที บางคำแฟนก็ไม่เข้าใจเพราะเขาก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ
ในมุมมองของคุณ คุณคิดว่ามันยากไหมสำหรับการที่คนไทยต้องปรับตัวไปใช้ชีวิตแบบคนไอซ์แลนด์ แล้วถ้ามันยาก มันยากยังไง และอะไรเป็นเรื่องที่ปรับตัวยากที่สุด
การปรับตัวยากพอสมควรค่ะ เรื่องสภาพอากาศ เพราะที่นี่หนาวมาก หนาวกระทั่งช่วงซัมเมอร์ อุณหภูมิร้อนสุดแค่ 15 องศา แต่อากาศที่ไทยร้อน ไปไหนมาไหนเวลาอยู่ที่นี่ต้องสวมเสื้อหนาๆตลอดเวลา ถุงมือ ผ้าพันคอ เสื้อโค้ท หมวก กางเกงขายาว ถุงเท้า จัดเต็ม ต่างกับที่ไทยใส่เสื้อตัวเดียวกางเกงขาสั้นเดินได้แล้ว เรื่องภาษาก็ปรับตัวยากใช้ภาษาคนละภาษา เรื่องที่ปรับตัวยากที่สุด คงเป็นเรื่องอาหารการกิน เรื่องกินเรื่องใหญ่ค่ะสำหรับฉัน คนที่นี่ส่วนใหญ่เขาทานขนมปัง เขาไม่ค่อยทานข้าวกันค่ะ อยากทานอาหารไทยมากแต่เมืองที่อยู่ไม่ค่อยมีอาหารไทยที่อยากทาน บางทีต้องเข้าเมืองหลวงเพื่อซื้อ แต่เมืองหลวงอยู่ไกลมากค่ะ นานๆทีกว่าจะได้เข้ามา มาอยู่ที่นี่ทานแต่เนื้อแกะ ทำให้น้ำหนักเพิ่มหลายกิโลเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังคิดถึงอาหารไทยอยู่ค่ะ แต่ก็ต้องปรับตัวอยู่เรื่อยๆค่ะ อะไรที่เขาทำก็ทำตามเขา
ที่ที่คุณอยู่มีคนไทยอาศัยอยู่เยอะไหม และพวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่สบายดีไหม คุณได้คบกับคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นั่นหรือเปล่าครับ
คนไทยที่นี่ไม่ค่อยเยอะค่ะ เมืองที่อยู่ก็ประมาณ 40 คน เจอกันบ้างเวลาเดินไปห้าง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ถ้าเจอก็จะยิ้มคะ แต่ไม่ได้เข้าไปทักทายเนื่องจากเคยไปทักตอนมาอยู่แรกๆอาการที่แบบเจอคนไทยด้วยกันดีใจวิ่งไปคุยกะเขา แต่เขาไม่คุยตอบกลับ เงียบ เลยตอนนี้ไม่ได้ทักใครเลย แต่ก็เข้าใจเขานะคะเขาคงกลัวยังไม่ไว้ใจเราเพราะเพิ่งเจอกัน รู้จักคนไทยที่นี่ 8 คนค่ะ เขามีชีวิตความเป็นอยู่สบายดีนะคะ มีทำงานบ้างบางคน บางคนก็เป็นแม่บ้านอยู่บ้านเลี้ยงลูก พวกเขาบอกว่าอยู่สบายกว่าอยู่ที่ไทยเพราะทำงานที่นี่ได้เงินเดือนดีกว่าแล้วงานก็ไม่หนักเพราะมีเครื่องจักรทำแทนทุกอย่าง มีเงินส่งไปให้ครอบครัวพ่อแม่พี่น้องที่เมืองไทย
อะไรที่คนไอซ์แลนด์ชอบและคุณบอกผมได้ไหมว่าผู้ชายไอซ์แลนด์เป็นอย่างไร ผู้หญิงไอซ์แลนด์เป็นอย่างไรและครอบครัวของคนไอซ์แลนด์เป็นอย่างไร
คนไอซ์แลนด์ชอบทานแกะค่ะ แกะที่นี่กลิ่นไม่คาวเหมือนแกะที่อื่น รสชาติดี ทานทุกอาทิตย์เลยเรียกว่าอาหารหลักเลยก็ว่าได้ค่ะ แล้วก็ทานปลาเพราะที่นี่มีปลาที่อร่อยมากค่ะ ไอซ์แลนด์ชอบจุดเทียนค่ะเวลาอยู่ในบ้านทานข้าว จุดเทียนในบ้านกันสร้างบรรยากาศ ช่วงซัมเมอร์คนไอซ์แลนด์ชอบไปเที่ยวแบบครอบครัวเขาจะขับรถตะลอนกันใช้รถบ้านตระเวนเที่ยวไปทั่วเลยค่ะ หรือบางคนเขาจะมีบ้านซัมเมอร์กันบ้านอยู่นอกเมืองเป็นบ้านไม้ไว้พักผ่อนหน้าร้อน แล้วคนไอซ์แลนด์ชอบอ่านหนังสือด้วยบ้านแต่ละบ้านจะมีหนังสือเยอะมาก เป็นหนอนหนังสือกันค่ะ
ผู้ชายไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่ตัวสูง ไว้หนวดเครา แต่ก็เป็นคนอบอุ่นน่ารักค่ะ รักครอบครัว เก่งหลายด้าน เย็บปักถักร้อยก็เป็น ถักไหมพรมยังเป็นอีกเวลาไปร้านค้าจะเจอผู้ชายไปเลือกซื้อไหมพรมบ่อยมากที่นี่เป็นเรื่องปกติ ทำอาหารเก่งทำอร่อยเลยทีเดียว เก่งงานบ้านดูแลจัดบ้านถูบ้าน ซักผ้า ล้างจานช่วยภรรยา
ผู้หญิงไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่จะสูงโปร่งกัน น่ารัก ยิ้มยาก แต่ไม่หยิ่ง วัยรุ่นที่นี่เวลาว่างจะไปช้อปปิ้ง ว่ายน้ำ นัดกันไปดูหนังหรือทำกิจกรรมทำงานเสริม หาเงินไปเที่ยวนอกประเทศ วัยกลางคนทำงานกับงานเวลาว่างไม่ค่อยมีทำงานตลอด ส่วนวัยอายุ 60 ขึ้นไปไม่ต้องทำงานแล้วเขาจะนัดกันไปจิบชา กาแฟ เลือกซื้อของแต่งบ้าน อบขนมทำเค้ก ผู้ชายและผู้หญิงที่ไอซ์แลนด์จะมีการนัดเจอกันอาทิตย์ละครั้งสำหรับคนอายุ 43 ปีขึ้นไป เพื่อพบปะพูดคุยกันผู้หญิงกับผู้ชายจะนัดคนละวันกัน จะมีนัดกันแบบนี้ทุกเมืองค่ะ ครอบครัวคนไอซ์แลนด์คล้ายๆกับคนไทยค่ะ ช่วยเหลือกันเวลามีปัญหา ดูแลกันและกัน ไปไหนไปกันทั้งครอบครัว ชอบเลี้ยงหมาค่ะ
ค่าครองชีพที่ไอซ์แลนด์เป็นอย่างไร อะไรที่คุณคิดว่ามันแพงเกินไป (3 things) และอะไรที่คุณคิดว่ามันมีคุณค่าเหมาะสมกับราคา (3 things)
ค่าครองชีพที่ไอซ์แลนด์แพงค่ะ ที่นี่อะไรๆก็แพงหมดเพราะต้องนำเข้าเกือบทุกอย่างเลย
3 อย่างที่คิดว่าแพง
1.เสื้อผ้าแพงมาก แพงกว่าที่อื่นมากเลยค่ะทั้งๆที่เป็นยี่ห้อเดียวกัน หลายคนที่นี่เลยพยายามที่จะสั่งเสื้อผ้าออนไลน์ในอินเตอรเน็ตเพราะถูกกว่า บางคนก็ไปช้อปปิ้งประเทศใกล้ๆเพราะถูกกว่ามาก
2.สิ่งของพวกอาหารการกิน ถ้าไปร้านอาหารจะแพงมาก ราคาเกินครึ่งกับซื้อทำทานเองที่บ้าน
3.ราคาค่าตัดผม ทำเล็บ เสริมสวย ทำสปา ที่นี่จะแพงมาก ต้องมีเงินจริงๆถึงทำได้บ่อยๆ หลายคนส่วนใหญ่จะซื้อมาทำเองหรือให้คนรู้จักคนในครอบครัวเพื่อนทำให้ เช่นตัดผม ทำเล็บ ย้อมสีผม
ที่ราคาสมเหตุสมผลกับราคา
1.เครื่องใช้ไฟฟ้า คิดว่าไม่ค่อยแพงเท่าไหร่มีหลายยี่ห้อให้เลือกราคาก็สมเหตุสมผลดีค่ะ
2.ราคารถ ราคาสมเหตุสมผล ที่ไทยแพงกว่าอีกค่ะ
3.ผลไม้เมืองหนาว เช่น แอ๊ปเปิ้ล กีวี ลูกแพร ของพวกนี้จะไม่แพง
บอกข้อดี 3 ข้อของการใช้ชีวิตอยู่ในไอซ์แลนด์ตามความคิดเห็นของคุณ – บอกข้อเสีย 3 ข้อของการใช้ชีวิตอยู่ในไอซ์แลนด์ครับ
ข้อดีของการใช้ชีวิตที่ไอซ์แลนด์
1.ความปลอดภัย ไม่มีโจรผู้ร้าย เนื่องจากทุกคนทำงานมีรายได้กันทุกครอบครัว อาชญากรรม ปล้น ลักขโมยเทือบเลยไม่มี อุบัติเหตุน้อยมาก ไม่ค่อยได้ยินข่าวเลยค่ะถ้ามีก็พายุหิมะแรงเวลาขับรถก็ลื่นตกตามข้างทาง แต่ก็ไม่ร้ายแรงอะไรค่ะ
2.ทำธุระเสร็จไว อะไรๆก็ใกล้หมดไม่ต้องขับรถไปไกล สามารถทำธุระเสร็จโดยใช้เวลาไม่นานเนื่องจากคนน้อยไม่ต้องรอคิวนาน
3.สงบ ไม่มีมลพิษ รถไม่ติด ความรู้สึกสดชื่นเหมือนอยู่ที่บ้านที่สุรินทร์เลยคะ
ข้อเสีย 3 ข้อ
ข้อแรกเลย ค่าครองชีพแพง อะไรก็แพงทุกอย่าง แต่รายได้ของที่นี่ก็ค่อนข้างดีทำงานชั่วโมงละ 400 บาท แต่ก็หักภาษีหนักเช่นกัน
2.จะไปทำอะไร เช่นไปโรงบาลหรือคลีนิค ไปร้านตัดผม ต้องโทรนัดก่อน ไปเลยไม่ได้
3.อากาศหนาว หนาวตลอดปี แม้กระทั่งช่วงซัมเมอร์ บางปีหิมะตกตลอดปีเลยก็มี ช่วงฤดูหนาวจะไม่มีแสงแดดเลยต้องทานวิตามินช่วยค่ะ
อะไรคือปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยและคนไอซ์แลนด์ในเรื่องของความโรแมนติก
ความโรแมนติกคนไทยตั้งแต่เล็กพ่อแม่ปู่ย่าสอนให้อย่าทำอะไรโจ่งแจ้ง เช่น การจูบ กอด หอม จับมือกัน ถ้าใครเห็นจะเป็นเรื่องไม่ดี คนอื่นเขาจะพูดว่าร้ายได้ ซึ่งต่างจากคนไอซ์แลนด์เขาจะกอด จูบ หอม ที่ไหน ตอนไหนก็ได้ เป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครมองหรือว่าอะไร คนไทยเวลาโกธรใครหรือไม่พอใจอะไรจะไม่แสดงออกเก็บอาการไว้ คนไอซ์แลนด์จะบอกนี่เขาไม่พอใจเรื่องนี้นะ คนไอซ์แลนด์เวลาทานข้าวชอบจุดเทียนสร้างบรรยากาศให้โรแมนติก ชอบซื้อของเซอร์ไพรส์กันบ่อยๆ คนไทยนานๆทีจะทำ การบอกรักกันอันนี้เหมือนกันทั้งสองชาติไทยกับไอซ์แลนด์ บางคนไม่ชอบบอกรักจะแสดงออกที่การกระทำให้รู้ว่ารัก การพูดเหมือนกันเวลาไปซื้อของเดินด้วยกันเป็นแฟนกันคนไทย เวลาผู้หญิงอยากได้ของสิ่งนั้น ผู้ชายถามว่าอยากได้ไหม ผู้หญิงส่วนใหญ่จะตอบว่าไม่ ไม่ในที่นี้หมายถึงอยากได้ ผู้หญิงไทยจะชอบพูดตรงข้ามกัน ต่างจากคนไอซแลนด์ ไม่ก็คือไม่ อยากได้คืออยากได้
คุณยังมีครอบครัวที่ยังคงอาศัยอยู่ที่เมืองไทยหรือไม่ ถ้ามี….คุณคิดถึงครอบครัวของคุณมากไหมและคุณคิดถึงเมืองไทยหรือเปล่าและสถานที่ไหนในประเทศไทยที่คุณชอบไปเที่ยวมาก
มีครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่ไทยค่ะ มีพ่อแม่และน้องสาว คิดถึงทุกคนค่ะ แต่ก็ได้คุยกันทุกวันทางแอ๊ปแชท ไลน์ วีดีโอคอลกันบ้างเห็นหน้ากัน ทำให้รู้สึกดีไม่ห่างกันมากมีกำลังใจ พอมีแรงหน่อย เพราะฉันไม่เคยจากบ้านไปไหนที่ไกลๆเลยตั้งแต่เด็กเรียนก็เรียนในจังหวัด มันไม่ค่อยง่ายเลยที่จะอยู่ห่างครอบครัวที่ไทย แต่ก็ตอนนี้มีครอบครัวอีกครอบครัวที่นี่ ครอบครัวที่นี่ก็ดีกับฉันมาก ต้อนรับดูแลฉันอย่างดี คิดถึงเมืองไทย อาหารไทยๆ ส้มตำ ไก่ยาง ลาบ แกงกล้วย หลายอย่างพูดไม่หมดหรอกค่ะ คิดถึงอากาศร้อนๆ สายลม แสงแดด มาอยู่ไอซ์แลนด์ไม่ค่อยมีแดดเลย สถานที่ที่ชอบไปเที่ยวที่ไทย ชอบไปเดินเล่นตามทุ่งนา สูดดมกลิ่นหญ้า พูดแล้วก็อยากนอนเล่นบนหญ้าเลยค่ะ จูงหมาเดินเล่นที่สวนยาง ว่างๆตอนอยู่ก็ไปช้อปปิ้งเดินตากแอร์ ไปทานบุฟเฟ่ต์กับครอบครัว คิดถึงบ้านจังค่ะ
คุณเคยรู้สึกไม่ปลอดภัยบ้างไหมขณะที่คุณอาศัยอยู่ในไอซ์แลนด์ครับ
อยู่ไอซ์แลนด์ไม่เคยรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยค่ะ ไม่ว่าไปไหนมาไหน จะข้ามถนนรถก็จะหยุดให้ข้ามโดยอัติโนมัติ ไม่ต้องกลัวระแวงว่ารถจะชน เพราะถนนที่นี่ขับรถช้า เรื่องขโมย โจรก็ไม่มีค่ะ คนมีวินัย เป็นระเบียบค่ะ
สถานที่ไหนในไอซ์แลนด์ที่คุณชอบไปเที่ยวมาก – ไอซ์แลนด์สวยไหมครับ
สถานที่ที่ชอบเที่ยวในไอซ์แลนด์ ไอซ์แลนด์มีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อคือน้ำตก ธารน้ำแข็ง มีน้ำตกหลายที่มากค่ะ ฤดูร้อนชอบไปเที่ยวน้ำตกค่ะ มันใหญ่มโหฬารมาก แล้วจะมีรุ้งกินน้ำด้วยสวยสุดๆค่ะ ฤดูหนาวก็นอนอยู่บ้านดูแสงเหนือจากห้องนอน ไอซ์แลนด์สวยค่ะเพราะยังคงความเป็นธรรมชาติมาก ตึกรามบ้านช่องก็ไม่ค่อยมี ชอบที่นี่ค่ะ
อะไรคือสิ่งที่คุณรัก และอะไรคือสิ่งที่คุณชอบทำในยามว่างของคุณ
มีหลายอย่างค่ะสิ่งที่รัก แต่รักมากที่สุดคือครอบครัว ประเทศไทย ตอนนี้รักไอซ์แลนด์ด้วยค่ะ มาอยู่ที่นี่จะต้องรักที่นี่ถูกไหมคะ ถ้าไม่รักหนีกลับบ้านไปนานละค่ะ สิ่งที่ชอบทำในยามว่าง ถ้าช่วงซัมเมอร์ ไปบ้านซัมเมอร์ไปเที่ยวน้ำตก เก็บบลูเบอร์รี่ เดินเที่ยวชมเมือง
ฤดูหนาวอย่างนี้ยามว่างอบขนม เรียนทำเค้ก ดูหนังซีรี่ส์อยู่ในบ้าน เดินเล่นนอกบ้านบ้างถ้าไม่มีหิมะค่ะ
ผู้หญิงไทยบางคนคิดว่าการย้ายมาอยู่ยุโรป จะทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น คุณมีคำแนะนำที่จะบอกผู้หญิงไทยที่คิดแบบนี้อย่างไร และคุณมีคำแนะนำอะไรที่จะแนะนำให้พวกเขาต้องระมัดระวังบ้างไหม
อยากจะบอกว่าการมาย้ายมาใช้ชีวิตที่ยุโรป มันมีทั้งข้อดีและไม่ดีค่ะ ต้องคิดให้มากค่ะ เริ่มจากข้อดีก่อนค่ะ ได้เจอสิ่งใหม่ๆที่เราไม่เคยเจอ เปิดโลกกว้างขึ้น ถ้ามีงานทำค่าแรงแพงกว่า อย่างฉันโชคดีเจอครอบครัวที่ดีทุกคนดีกับฉันดูแลฉันอย่างดี
ข้อไม่ดีคือ หนาว จะทำอะไรต้องพึ่งตัวเองหรือสามีเท่านั้นถ้าเราพูดภาษาบ้านเขาไม่ได้ไปไหนมาไหนลำบากเพราะบางประเทศถึงคุณพูดอังกฤษได้แต่คนบ้านเขาไม่ใช้ภาษาอังกฤษก็สื่อสารกันไม่เข้าใจค่ะ อาหารการกินก็ต่างจากที่ไทยค่ะ เหงาบางครั้ง มานี่คุณจะคิดถึงเมืองไทยที่บ้านมาก ถ้าแต่งงานมาเจอครอบครัวไม่ดี เจอแม่สามีแกล้ง ใช้งานหนักๆก็มีค่ะ
ดังนั้นก่อนจะมาใช้ชีวิตที่ยุโรปอยากให้คิดถึงตัวเองก่อนเลยค่ะ เอาตัวเองเป็นที่ตั้งว่าพร้อมไหม ศึกษาข้อมูลแต่ละประเทศที่จะมาอยู่ก่อนค่ะ ดูคนที่จะมาใช้ชีวิตด้วยว่าเขานิสัยอย่างไร ครอบครัวเขาเป็นแบบไหน อาจจะทำวีซ่ามาเยี่ยมก่อนเพื่อศึกษาดูใจกันว่าเข้ากันได้ไหม ถ้ามาอยู่กับเขาจะได้ไม่ต้องลำบากค่ะ
อีกอย่างหลายคนที่อยากมีแฟนเป็นต่างชาติเข้าเว็บไซต์ แชทก็ควรดูกันให้ดีๆก่อน อย่าเพิ่งหลงเชื่อใครตราบใดที่ยังไม่เจอตัวกันเป็นๆ โชคดี สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
โปรดลงทะเบียนเพื่อรับThai Women Living Abroad ข่าวสารใหม่อย่างต่อเนื่อง
2 thoughts on “คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ:จากสุรินทร์สู่อาคูเรรีประเทศไอซ์แลนด์”